
พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2569 ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายคุมเข้มความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ภายใต้ชื่อ “ขับขี่ปลอดภัย ลดความเร็ว ลดอุบัติเหตุ” โดยวันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นวันแรกของการควบคุมเข้มข้น ซึ่งจากสถิติข้อมูล มีอุบัติเหตุเกิด 198 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 190 คน ผู้เสียชีวิต 29 ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด รองลงมา คือ ดื่มแล้วขับ, ตัดหน้ากระชั้นชิด โดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ขณะที่พฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ การไม่สวมหมวกนิรภัย
ทั้งนี้ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย และภูเก็ต จังหวัดละ 11 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ภูเก็ต จำนวน 12 คน

ด้านนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า ศปถ. ได้เน้นย้ำจังหวัดให้ใช้มาตรการเชิงรุกผ่านกลไกท้องถิ่น ท้องที่ และอาสาสมัคร ปฏิบัติการ “เคาะประตูบ้าน” ให้คำแนะนำผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง ควบคู่กับการจัดตั้ง “ด่านชุมชน” ป้องปรามบุคคลที่มีความเสี่ยงนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ หากผู้กระทำผิดไม่ปฏิบัติตามคำเตือนให้ประสานสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินการตามกฎหมาย
นอกจากนี้ การจัด “ชุดเคลื่อนที่เร็ว” ดูแลความปลอดภัยในจุดที่มีการจัดงานเฉลิมฉลอง จะเป็นอีกหนึ่งการปฏิบัติที่ช่วยลดอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกได้ และให้หน่วยงานในพื้นที่สร้างความเข้าใจมาตรการต่าง ๆ ต่อประชาชน เช่น การลดความเร็ว ผลกระทบจากการขับรถเร็ว และบทลงโทษทางกฎหมาย ผ่านสื่อในพื้นที่ทุกช่องทาง
พร้อมแนะนำผู้ขับขี่ให้เตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกาย ยานพาหนะให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ ชำระภาษีรถยนต์ และมีประกันภัยภาคบังคับ หากขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรหยุดพักตามจุดบริการที่จัดไว้ให้ และไม่ควรขับขี่หากมีการดื่มสุราหรือทานยาที่มีฤทธิ์ง่วงซึม
“คืนนี้จะเป็นคืนที่มีการเฉลิมฉลองในหลายพื้นที่ หากที่ใดมีการจัดงานใหญ่ ให้จัดหารถบริการสาธารณะรับ-ส่งประชาชนกลับภูมิลำเนา ส่วนพื้นที่ที่มีการจัดงานฉลองในชุมชนหมู่บ้าน ไม่ควรปล่อยให้ผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงขับรถออกมาข้างนอก และ ด่านชุมชนจะเป็นด่านแรกในการสกัดความเสี่ยง พร้อมให้บริการ และดูแลความปลอดภัย ที่สำคัญให้ผู้ประกอบการร้านค้างดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หากพบเยาวชนดื่มแล้วขับ จนเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับร้านค้า ผู้สนับสนุน และผู้ปกครองตามกฎหมาย” อธิบดี ปภ. กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ธ.ค. 68)




