World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ โดยมีแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทจดทะเบียน

ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครตได้เสนอให้มีการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (corporate tax rate) จากระดับ 21% สู่ระดับ 26.5% รวมทั้งเสนอให้ปรับขึ้นภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน (capital gains tax) และเงินปันผลขึ้นสู่ระดับ 28.8% ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 3.5 ล้านล้านดอลลาร์


-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% หลังจากพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)


-- แม้ปธน.โจ ไบเดน แห่งสหรัฐ จะกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการประชุมแบบตัวต่อตัวกับปธน.สี จิ้นผิงของจีน ในระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ประธานาธิบดีจีนก็ได้ปฏิเสธโอกาสดังกล่าว เนื่องจากผู้นำจีนยังไม่อยากเดินทางออกนอกประเทศในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19

ด้านผู้บริหารวอลล์สตรีทและหน่วยงานกำกับดูแลระดับสูงของจีนวางแผนที่จะจัดการประชุมเสมือนจริงในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหารือในประเด็นต่างๆ รวมถึงการที่จีนเดินหน้าปราบปรามธุรกิจในภาคเอกชน และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน


-- งานวิจัยฉบับใหม่ระบุว่า ในแต่ละปี ผู้คนหลายแสนคนอาจติดเชื้อจากสัตว์ที่มีเชื้อไวรัสโคโรนาซึ่งเชื่อมโยงกับโควิด-19 โดยในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการติดเชื้อดังกล่าวเฉลี่ยที่ 400,000 รายต่อปี ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตนเองป่วย เนื่องจากเชื้อไวรัสดังกล่าวทำให้เกิดอาการที่ไม่รุนแรงหรือไม่มีอาการเลย และไม่สามารถแพร่เชื้อระหว่างคนได้โดยง่ายมากนัก

นักวิจัยกล่าวว่า แม้ว่าอาการจะไม่รุนแรงแต่มีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสดังกล่าวอาจมีการปรับตัวและการแพร่ระบาดเช่นเดียวกับโควิด-19


-- แอปเปิลเปิดตัว iPhone 13 พร้อมผลิตภัณฑ์อื่นๆ เมื่อคืนนี้ โดยมุ่งดึงดูดผู้บริโภคด้วยการปรับปรุงกล้องและการประมวลผลข้อมูล แทนการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ สำหรับ iPhone 13 มีอยู่ 4 รุ่น คือ iPhone 13 mini ซึ่งมีหน้าจอ 5.4 นิ้ว, iPhone 13 หน้าจอ 6.1 นิ้ว, iPhone 13 Pro หน้าจอ 6.1 นิ้ว และ iPhone 13 Pro Max หน้าจอ 6.7 นิ้ว โดย iPhone 13 ทุกรุ่นมีราคาเริ่มต้นเท่ากับ iPhone 12 ทุกรุ่นที่ได้เปิดตัวไปในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ iPhone 13 mini มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 699 ดอลลาร์, iPhone 13 อยู่ที่ 799 ดอลลาร์, iPhone 13 Pro อยู่ที่ 999 ดอลลาร์ และ iPhone 13 Pro Max อยู่ที่ 1,099 ดอลลาร์


-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 6.4% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.8%

ส่วนยอดค้าปลีกของจีนในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นเพียง 2.5% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563 นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ยังชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 8.5% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 7%


-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนส.ค.ร่วงแตะระดับ 2.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่ที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเริ่มรวบรวมข้อมูลแรงงานในเดือนมิ.ย.ปี 2542 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

การลดลงของอัตราว่างงานเดือนส.ค.สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้รัฐบาลเกาหลีใต้ประสบกับความยากลำบากในการควบคุมการแพร่ระบาดรอบใหม่ก็ตาม


-- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของอังกฤษ, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ของอียู, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค. ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ของสหรัฐ