ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดเช้าร่วง 14.86 จุด ตามทั่วโลกหลัง Valuation ตึง-ECB อาจลดดอกเบี้ย

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,483.27 จุด ลดลง 14.86 จุด (-0.99%) มูลค่าการซื้อขายราว 48,553.45 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,492.00 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,477.50 จุด

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบถ้วนหน้า เช่นเดียวกับดาวโจนส์ที่ติดลบ 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยมองว่า Valuation ตึงตัวหลังขึ้นไปตลอดในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งทางรัฐบาลเยอรมนีปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 64 ทำให้วิตกกันว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งระยะยาวจะไม่ดีต่อสถาบันการเงิน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มการเงินต่างปรับตัวลง

ทั้งนี้ ดัชนีฯได้หลุดแนวรับ 1,492 จุด ซึ่งเป็น Low ในรอบเกือบ 1 เดือน ทำให้เห็นว่าตลาดฯอยู่ในช่วงปรับฐานระยะสั้นหลังจากปรับตัวขึ้นไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี มองว่าตลาดบ้านเราคงจะไม่ปรับตัวลงไปมาก เช้านี้หุ้นขนาดใหญ่ต่างถูกขายในลักษณะกระจายไปทั้งกระดาน โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ทั้งกลุ่มพลังงานและแบงก์ต่างปรับตัวลง

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวในแดนลบในลักษณะของการสร้างฐาน โดยมีแนวต้าน 1,492 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,470 จุด มองแนวรับเป็นจุดเข้าซื้อและมีโอกาสเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์


ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

EA มูลค่าการซื้อขาย 3,456.63 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ลดลง 3.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,815.10 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 บาท

SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 1,704.80 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 3.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,690.56 ล้านบาท ปิดที่ 384.00 บาท ลดลง 8.00 บาท

GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,640.33 ล้านบาท ปิดที่ 79.25 บาท ลดลง 2.25 บาท