ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งกว่า 300 จุด ผิดหวังยอดค้าปลีก,ผลประกอบการแบงก์

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 300 จุดในวันนี้ หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ทรุดตัวลงในเดือนธ.ค. รวมทั้งการเปิดเผยผลประกอบการภาคธนาคารที่น่าผิดหวัง

ณ เวลา 21.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 315 จุด หรือ 0.88% สู่ระดับ 35,674 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.9% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าทรงตัวในเดือนดังกล่าว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.

ยอดค้าปลีกที่ดิ่งลงในเดือนธ.ค. ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19, การขาดแคลนสินค้า รวมทั้งราคาสินค้าที่พุ่งขึ้นอย่างมาก ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ร่วงลง 3.1% ในเดือนธ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนพ.ย.

ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นนิวยอร์กวันนี้ หลังธนาคารเปิดเผยว่ากำไรดิ่งลงอย่างหนักในไตรมาส 4/64

ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 4.06% สู่ระดับ 65.03 ดอลลาร์

ซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยว่า กำไรของทางธนาคารดิ่งลง อันเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

นอกจากนี้ กำไรของธนาคารยังถูกกระทบจาก "ผลกระทบก่อนหักภาษี" ราว 1.2 พันล้านดอลลาร์ จากการขายธุรกิจลูกค้ารายย่อยในเอเชีย

อย่างไรก็ดี ซิตี้กรุ๊ปมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจวาณิชธนกิจที่แข็งแกร่ง

ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิลดลง 26% สู่ระดับ 3.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.46 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4/64 จากระดับ 4.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.92 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4/63

ทั้งนี้ หากไม่รวมผลกระทบจากการขายธุรกิจลูกค้ารายย่อยในเอเชีย ธนาคารมีกำไร 1.99 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.38 ดอลลาร์/หุ้น

ขณะเดียวกัน ธนาคารมีรายได้ 1.70 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.675 หมื่นล้านดอลลาร์