ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.44 แข็งค่าจากวานนี้รับดอลลาร์อ่อนหลังเงินเฟ้อสหรัฐต่ำคาด จับตาประชุม BOJ

          นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.44 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น
วานนี้ที่ระดับ 31.47 บาท/ดอลลาร์
          วานนี้สหรัฐฯ ประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ออกมาต่ำกว่าคาด เป็นปัจจัยหนุนให้ตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ 
(เฟด) จะยังลดดอกเบี้ยต่อในปีหน้า ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน
          ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่มีการคาดการณ์ว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ย ซึ่งการเคลื่อนไหวของเงินเยนก็อาจจะมีผลกระทบต่อค่าเงินบาทด้วย
          นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.30-31.55 บาท/ดอลลาร์
          SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.42125 บาท/ดอลลาร์

          * ปัจจัยสำคัญ

          - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 155.90 เยน/ดอลลาร์
          - เงินเยน อยู่ที่ระดับ 1.1720 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1720 ดอลลาร์/ยูโร
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 31.467 บาท/ดอลลาร์
          - ผู้ว่าการการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 69 ททท.ตั้งเป้าหมาย มีนักท่องเที่ยวจีนกลับเข้ามา
ท่องเที่ยวในไทย 6.7 ล้านคน เติบโต 40% จากปีนี้ที่คาดว่ามีประมาณ 4.5 ล้านคน มีปัจจัยบวกทั้งการเสด็จฯ เยือนจีนอย่างเป็นทางการ
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีที่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศและเป็นผลบวกต่อภาพลักษณ์บนโลกออนไลน์
ของจีน พร้อมประกาศใช้แคมเปญ หลักเจาะตลาดจีนอย่าง จงไท่อี้เจียชิน หรือ จีนไทยครอบครัวเดียวกัน โดยจัดกิจกรรมด้านการตลาด 
ประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย และอีเวนต์ เทศกาลต่างๆ ทุกเดือนตลอดปี
          - "ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ห่วงเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคโตต่ำเป็น New Normal หลังกินบุญเก่ามานาน ชี้ปัญหาเชิงโครงสร้างทุบ
หนัก แค่ลดดอกเบี้ยไม่พอ ลุยนำประคองเศรษฐกิจ ออกมาตรการตรงจุด จ่อทำ MOU กับคลัง-แบงก์พาณิชย์ เข็นโครงการค้ำประกันสินเชื่อ
อุ้มเอสเอ็มอี ฮึ่มคุมเข้มร้านทอง-เทรดผ่านแอป ปัจจัยสำคัญกดเงินบาทแข็งค่า
          - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางไปเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา "Thailand-China 
Investment Forum 2025" ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและอัปเดตทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของ
ไทยให้กับกลุ่มนักลงทุนจีน ซึ่งถือเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดกลุ่มหนึ่งของไทย
          - ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ตามการคาดการณ์ของตลาด โดยเป็น
การคงอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน
          - คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 5-4 ในการปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
          - นักลงทุนจับตาผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BOJ จะปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2538
          - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 224,000 ราย
ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 200,000 ราย
          - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค 
ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.1% และชะลอตัวลงจากระดับ 3.0% 
ในเดือนก.ย. ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบ
รายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.0% และชะลอตัวลงจากระดับ 3.0% ในเดือนก.ย.
          - นักลงทุนพากันเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปี 2569 ใน
การประชุมเดือนมี.ค. เร็วกว่าเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย. หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัย
หนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
          - ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (18 ธ.ค.) หลัง
จากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งล่าสุด ส่วนดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ 
สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
          - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (18 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนซึมซับตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดของ
สหรัฐฯ และลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ
          - JP Morgan และ Bank of America (BofA) ต่างก็คาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์/ออนซ์ 
ในปี 2569 โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยังคงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่าม
กลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
          - ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จาก
มหาวิทยาลัยมิชิแกน