ดาวโจนส์เปิดแดนลบ ซื้อขายเบาบางวันสุดท้ายของปี

ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดในแดนลบวันนี้ (31 ธ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางในวันทำการสุดท้ายของปี 2568 โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดี (1 ม.ค.) เนื่องในวันปีใหม่ ก่อนที่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันศุกร์ (2 ม.ค.)

ณ เวลา 22.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 119.10 จุด หรือ -0.25% สู่ระดับ 48,247.96 จุด

นักลงทุนบางส่วนยังคงคาดหวังปรากฎการณ์ "ซานตาคลอสแรลลี่" (Santa Claus Rally) หรือปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีนี้ และ 2 วันทำการแรกของปีใหม่ โดยในรอบนี้ปรากฎการณ์ดังกล่าวตรงกับวันที่ 24 ธ.ค. 2568 จนถึงวันที่ 5 ม.ค. 2569

นักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 199,000 ราย ในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 ธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ราว 220,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 1,750 ราย สู่ระดับ 218,750 ราย

ด้านจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 47,000 ราย สู่ระดับ 1.866 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 ธ.ค.

ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 9-10 ธ.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งรวมถึงประเด็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญ ก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะมีมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3 ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมครั้งนี้

สมาชิก FOMC จำนวน 9 คนได้ลงมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 10 ธ.ค. ขณะที่สมาชิก 3 คนโหวตสวนมติ ซึ่งถือเป็นจำนวนการโหวตสวนมติมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2562 โดยสตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟด โหวตให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ขณะที่เจฟฟรีย์ ชมิด ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี และออสแตน กูลสบี ประธานเฟดสาขาชิคาโก โหวตให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมครั้งนี้

ทั้งนี้ การประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 27-28 ม.ค. ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมครั้งนี้