ถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงพรุ่งนี้! มท.1 ฟันธง "สนามช้างอารีนา" สร้างบนที่รัฐ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ร่วมแถลงความคืบหน้าการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง ต.อีสาณ และ ต.เสม็ด อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์

โดยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ระบุว่า ที่ดินกว่า 5,000 ไร่ ที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกามีคำพิพากษาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วว่าที่ดินดังกล่าว เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้ว รฟท.ได้ทำหนังสือถึงกรมที่ดิน เพื่อให้ทำการเพิกถอนโฉนดที่ดิน แต่กรมที่ดินในขณะนั้นเพิกเฉย ไม่ทำตามคำพิพากษาของศาลฎีกา

รฟท. จึงได้ยื่นฟ้องกรมที่ดินต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้กรมที่ดินเพิกถอนตามคำสั่งศาลฎีกา ต่อมาศาลปกครองกลาง ได้พิพากษาให้เพิกถอนโฉนดตามคำพิพากษาของศาลฎีกา ส่วนไหนที่ไม่มีปัญหาเรื่องขอบเขต ให้เพิกถอนตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 วรรค 8 ได้เลย แต่ยังมีส่วนหนึ่งที่มีการแย้งเข้ามาเรื่องขอบเขตที่ดินข้างนอก เมื่อมีปัญหาแบบนี้ ท้ายของคำพิพากษาของศาลปกครอง จึงมีคำสั่งว่าให้อำนาจอธิบดีกรมที่ดิน ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อทำประมวลกฎหมายมาตรา 61 วรรคสอง ให้กรรมการชุดนี้มีอำนาจหน้าที่ร่วมกับ รฟท.เพื่อสอบเขตที่ไม่ชัดเจนให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากนั้นจะได้เพิกถอนตามคำพิพากษาของศาลฎีกา

แต่ขณะนั้น กรมที่ดิน ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ซึ่งตามที่คณะกรรมการจะทำให้ครบตามคำสั่งศาลฎีกา ที่เป็นขอบเขตที่ละเอียด แต่ปรากฏว่าตามรายงานไม่มีการสอบเขตแต่อย่างใด แถมมีคำสั่งว่าให้ยุติเรื่องด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา

"อธิบดีกรมที่ดิน เห็นชอบตามมติของคณะกรรมการชุดนั้น หลังจากนั้น เป็นที่พูดถึงกันมีพี่น้องทั้งประเทศไทย ทำไมกรมที่ดินไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลฎีกา ซึ่งนอกจากไม่ปฏิบัติตามแล้ว ยังปฎิบัติตรงข้ามค้านสายตาชาวไทย ค้านสายตาผู้พิพากษา" รมช.มหาดไทย ระบุ

นายเดชอิศม์ กล่าววา เมื่อตนได้รับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย และได้กำกับดูแลกรมที่ดิน ทำให้ได้รับหนังสือร้องเรียนจากประชาชนเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินเขากระโดง ทำให้ตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อตรวจสอบว่าคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินถูกต้องหรือไม่ โดยผลสรุปของคณะกรรมการระบุว่า คณะกรรมการตามมาตรา 61 วรรค 2 ไม่ได้ทำตามกระบวนการที่ครบถ้วน ฉะนั้นคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินเลยไม่ชอบ

ตนจึงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่าระหว่างกรมที่ดิน และ รฟท.มีการสอบเขตแล้วหรือไม่ ผลปรากฏว่าในปี 2567 กรมที่ดินและ รฟท.ได้ร่วมกันสอบแนวเขตมาชัดเจนแล้ว วันนี้สรุปได้ว่าอธิบดีกรมที่ดิน มีอำนาจเพิกถอนโฉนดเขากระโดง ตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 61 วรรค 8 ได้เลย

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้รับการร้องเรียนเรื่องเขากระโดง ขณะที่สื่อมวลชนมีการเปิดประเด็นว่าการดำเนินการนั้นโดยชอบหรือไม่ เนื่องจากขัดกับที่ศาลปกครอง ศาลฎีกา และศาลอาญา ที่ได้มีการสรุปและตัดสินไปแล้วว่าที่ดินนี้เป็นของ รฟท. ซึ่งเรื่องการบังคับใช้ หากดูแผนที่ที่ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ จากรัชกาลที่ 5 ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นที่ดินของหลวง และเป็นที่ดินของรัฐโดยแท้ และเมื่อปี 2465 มีการออกพระราชกฤษฎีกา และขณะนั้นมีชาวบ้านครอบครอง 18 ครอบครัว และ รฟท.ได้ไปซื้อที่ดินมาจากชาวบ้าน ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ในอดีตที่ดินที่มีการครอบครองจากชาวบ้านได้ขายให้ รฟท. ซึ่งถือว่าเป็นที่ดินของ รฟท.โดยชอบทั้งหมด เพราะฉะนั้นโดยกระบวนการทางกฎหมายที่ดินต่าง ๆ จะต้องถูกประกาศยกเลิกขีดฆ่าออกจากสารระบบ เพราะเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญ หลังจากที่มีได้ดำเนินการและฟ้องร้องกัน

"ใจกลางของที่ดิน ที่สร้างสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถของที่ดินแปลงนี้ จึงมิชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มีเหตุที่ทำให้เอกชนมายึดครองและที่ดินของรัฐแล้วมาอ้างว่าเป็นที่ดินของตัวเอง จากการสืบสวนสอบสวนได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง สรุปออกมาก็ยืนยันว่าเป็นที่ดินของรัฐ และศาลได้พิจารณาเรื่องนี้แล้วชัดเจน" นายภูมิธรรม กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตามมาตรา 61 (8) กรมที่ดินมีอำนาจเพิกถอนได้ทันทีตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เพราะฉะนั้นที่ดินเหล่านี้ตกเป็นของรัฐ จึงจะดำเนินการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (2 ส.ค.) เป็นต้นไป สำหรับการเยียวยาประชาชนที่ได้ที่ดินดังกล่าวมาโดยสุจริต ก็เป็นไปตามกระบวนการตามกฏหมาย

"ทั้งหมดนี้ ต้องถือว่าเป็นที่ดินของรัฐ สามารถยึดครองได้ และขีดฆ่าโฉนดที่ดินได้ ถ้าใครได้มาอย่างถูกต้อง ก็ให้ว่าไปตามกฏหมายมีสิทธิ์เสนอเรื่องเข้ามาฟ้องร้องก็ได้ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ต้องยืนยันว่า ที่ดินตอนนี้เป็นของรัฐ ถ้าจะมีการขอเช่าต่อ ก็ว่าไปตามกระบวนการ" นายภูมิธรรม ระบุ

พร้อมยืนยันว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ไม่ใช่การกลั่นแกล้งเครือข่ายพรรคภูมิใจไทย แต่เป็นการดำเนินการไปตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาดำเนินการตามคำสั่งของศาลไม่ครบถ้วน ซึ่งสามารถดำเนินการนำที่ดินกลับมาเป็นของรัฐตามที่ประชาชนเฝ้ามองอยู่ หากใครมองว่าไม่ชอบอย่างไรก็สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมได้

"คนที่จะมาเพิกถอนที่ดินไม่ว่าจะเป็นอธิบดีท่านไหน ก็ต้องดำเนินการ เพราะเป็นคำสั่งศาลที่ได้มีคำสั่งมายังกรมที่ดิน และอำนาจเพิกถอนเป็นของกรมที่ดิน แต่ถ้าไม่มี ก็เป็นผู้บังคับบัญชาระดับต่างๆ ที่จะต้องบังคับดำเนินการ"

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ว่า อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนงบประมาณที่จะต้องนำมาใช้ในการเยียวยานั้น ต้องให้มีความชัดเจนก่อนว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง และต้องดำเนินการไปตามกฎหมายละเมิด