นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวในวันนี้ว่า กัมพูชายึดมั่นในแนวทางสันติภาพ และให้ความสำคัญสูงสุดต่อชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน พร้อมย้ำว่า การหยุดยิงไม่ได้หมายความว่ากัมพูชาจะไม่มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการปกป้องตนเอง
ทั้งนี้ เพื่อคลายความกังวลที่ว่า กัมพูชาอาจสูญเสียดินแดนแก่ประเทศไทย นายฮุน มาเนต กล่าวว่า การตัดสินใจหยุดยิงเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ไม่ได้หมายความว่า กัมพูชายินยอมแลกบูรณภาพแห่งดินแดนเพื่อสันติภาพ และไม่ได้สื่อว่า กัมพูชาละทิ้งสิทธิในการป้องกันตนเอง หรือขาดศักยภาพในการป้องกันประเทศ
หลังการสู้รบเป็นเวลา 21 วัน กัมพูชาและประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะหยุดยิงโดยทันที และทหารของทั้งสองฝ่ายจะคงกองกำลังที่ตำแหน่งก่อนการประกาศยุติการสู้รบ
ประเด็นดังกล่าวทำให้นักวิจารณ์บางส่วนอ้างว่า ทำให้กัมพูชาสูญเสียดินแดนให้แก่ประเทศไทย
อย่างไรก็ดี นายฮุน มาเนต กล่าวว่า แม้กัมพูชาจะสามารถยืนหยัดต่อสู้ต่อไป แต่ในฐานะประเทศขนาดเล็ก กัมพูชาไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ จากการที่ความขัดแย้งยืดเยื้อต่อไป
'ขณะที่มีความเป็นไปได้ในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับข้อพิพาทชายแดน รัฐบาลได้ตัดสินใจเดินหน้าเจรจาเพื่อยุติการสู้รบก่อนที่ความขัดแย้งจะขยายวงกว้างออกไป เพื่อลดความสูญเสียและความทุกข์ทรมานของพี่น้องประชาชน' นายฮุน มาเนต กล่าว
เขายังระบุว่า การยุติการสู้รบมีเป้าหมายเพื่อยุติการเสียสละและการบาดเจ็บของทหารและตำรวจ รวมทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยสงครามไม่อาจยุติได้ด้วยสงคราม
จนถึงขณะนี้ พลเรือนชาวกัมพูชาเสียชีวิต 32 ราย และบาดเจ็บ 93 รายจากการปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
นายฮุน มาเนต กล่าวว่า 'การหยุดยิงโดยทันทีหมายความว่า ทั้งสองฝ่ายคงกำลังไว้ในตำแหน่งที่ตั้งของตนเอง ณ เวลาที่การหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับใช้'
'อย่างไรก็ตาม การจัดวางกำลังดังกล่าว ไม่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างทั้งสองประเทศตามที่ระบุไว้ในแถลงการณ์ร่วมของการประชุมพิเศษคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชาและราชอาณาจักรไทย ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2568'
'สิ่งนี้ชี้ชัดว่า เส้นพรมแดนระหว่างประเทศของกัมพูชาและไทยยังคงถูกกำหนดโดยสนธิสัญญาและอนุสัญญาที่มีอยู่ และกัมพูชายังคงมีสิทธิอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับฝ่ายไทยตามกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญา อนุสัญญา และกลไกทวิภาคีทั้งหมดที่มีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน'
นายฮุน มาเนตได้เน้นย้ำถึงเนื้อหาในข้อที่ 3 ของแถลงการณ์ร่วม ซึ่งระบุว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงมอบหมายให้คณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) กลับมาดำเนินการสำรวจและปักปันเขตแดนโดยเร็วที่สุด ตามข้อตกลงที่มีอยู่ระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบซึ่งเคยมีพลเรือนอยู่อาศัย เพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ
นายฮุน มาเนตกล่าวทิ้งท้ายว่า ความยากลำบากและการเสียสละด้วยเลือดเนื้อของวีรบุรุษของเราบนสนามรบ เป็นเครื่องเตือนใจว่า เราไม่ควรลืมแม้แต่วินาทีเดียวว่า 'ความแตกแยกคือความตาย ความสามัคคีที่เข้มแข็งคือชีวิต'