- ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันที่ 12 เม.ย. 2563 (11.30 น.)
- ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยอดสะสม 2,551 คน (+33)
- รักษาหายแล้ว 1,218 คน (+83)
- ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 1,295 คน
- เสียชีวิต 38 คน (+3)
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศล่าสุดวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น 33 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,551 คน จากทั้งหมดรวม 68 จังหวัด จำนวนผู้ป่วยที่กลับบ้านได้แล้ว รวมทั้งสิ้น 1,218 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3 คน รวมเป็นผู้เสียชีวิตสะสม 38 คน
โดยผู้เสียชีวิตรายที่ 1 เป็นชายไทยอายุ 74 ปี ป่วยเป็นเบาหวานและไขมันในเลือดสูงร่วมด้วย สาเหตุของการรับเชื้อมาจากเดินทางไปตลาดนัด และคนในบ้านมีการอยู่รวมกลุ่มกัน เริ่มมีอาการไข้ตั้งแต่ 1 เม.ย. แต่เข้ามารับการรักษาตัวที่ รพ.ในจ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 8 เม.ย. มีอาการไข้สูง และถ่ายเป็นสีดำ ผู้ป่วยอาการเริ่มแย่ลงและเสียชีวิตเมื่อ 11 เม.ย.
ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 2 เป็นหญิงไทย อายุ 65 ปี ป่วยเป็นไข้สูง มีการเดินทางไปเยี่ยมญาติใน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 20-26 มี.ค. จากนั้นมีไข้ในวันที่ 27-31 มี.ค.มารับยาที่ รพ.แล้วกลับบ้าน หลังจากนั้นกลับมา รพ.อีกครั้ง แต่อาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ผู้ป่วยอาการแย่ลง และเสียชีวิตในวันที่ 11 เม.ย.
ส่วนผู้เสียชิวิตรายที่ 3 เป็นชายไทย อายุ 44 ปี ถูกส่งตัวต่อมาจาก รพ.เอกชนตั้งแต่ 28 มี.ค. และอาการหนักมาตั้งแต่แรกรับ ต้องใช้ยาหลายขนานเพื่อดูแลทุกระบบของร่างกาย แต่ผู้ป่วยอวัยวะภายในล้มเหลว ต้องล้างไตหลายครั้ง และเสียชีวิตล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น 33 คนในวันนี้ แบ่งเป็น กลุ่มผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ รวม 31 คน ซึ่งยังมีทั้งผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้า หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้, ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ, ผู้ที่เข้าไปในที่ชุมชน, ผู้มีอาชีพเสี่ยง และบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนอีกกลุ่ม เป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากอินโดนีเซียและเข้า State Quarantines ที่ จ.นราธิวาส อีก 2 คน
สำหรับผู้ป่วยใหม่ทั้ง 33 คนดังกล่าว พบว่าอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่ที่ 14 คน รองลงมา ยะลา 5 คน, ภูเก็ต 4 คน, ปัตตานี 3 คน, นราธิวาส และสมุทรสาคร จังหวัดละ 2 คน, เลย ชลบุรี และนครศรีธรรมราช จังหวัดละ 1 คน
ทั้งนี้ ใน 9 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 ได้แก่ กำแพงเพชร, ชัยนาท, ตราด, น่าน, บึงกาฬ, พิจิตร, ระนอง, สิงห์บุรี และอ่างทอง
โฆษก ศบค. กล่าวถึงสาเหตุจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เริ่มลดลงว่า ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการประกาศมาตรการที่เข้มข้นขึ้นของรัฐบาล ทั้ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งการประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศเป็นอย่างดี จึงทำให้เกิดผลเป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับในช่วงก่อนหน้านี้ ที่จำนวนผู้ป่วยในแต่ละวันเพิ่มขึ้นในเป็นระดับ 3 หลักหรือมากกว่าร้อยคน
ส่วนที่มีประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศห้ามจำหน่ายสุราทุกจังหวัดทั่วประเทศนั้น โฆษก ศบค. กล่าวว่า ปัจจุบันมีจังหวัดที่มีคำสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แล้วรวม 73 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่เหลือนั้น การประกาศจะต้องขึ้นอยู่กับอำนาจของคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสม ซึ่งเมื่อประกาศแล้ว จะต้องมีมาตรการและแนวทางการปฏิบัติภายในจังหวัดเองออกมารองรับด้วย
นพ.ทวีศิลป์ ยังย้ำว่า สงกรานต์ปีนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ฝากแจ้งมาว่าห้ามประชาชนเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันในทุกพื้นที่ รวมทั้งในบ้านด้วยเช่นกัน เนื่องจากการเล่นสาดน้ำจะมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้
“น้ำเป็นพาหะ เพราะจะถูกนำพาให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ภายนอกได้ สงกรานต์นอกจาก 7 วันอันตรายแล้ว ในช่วงนี้ ต้องขีดเส้นใต้ว่าเป็น 7 วันอันตรายของการระบาดของโควิด-19 ด้วยเช่นกัน…การติดเชื้อในบ้านมีเปอร์เซ็นต์สูงมากๆ ท่านอาจกำลังนำโรคจากในตัวมาสู่ลูกหลาน ดังนั้นขอว่าอย่าเล่นสาดน้ำกัน แค่ขอพรอยู่ห่างๆ จะช่วยให้ห่างโรคได้”
โฆษก ศบค.ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 63)
Tags: COVID-19, ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน, ยอดผู้ติดเชื้อ, ยอดผู้เสียชีวิต, ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19, โควิด-19, ไทย