บลจ.กสิกรไทย มองตลาดเงินทั่วโลกยังผันผวนสูงแนะลงทุนทองคำติดพอร์ต

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดการเงินทั่วโลก ยังคงมีความผันผวนสูงอย่างต่อเนื่องภายใต้ความกังวลของผู้ลงทุนที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวลง โดยได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงมาอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งผู้ลงทุนยังคงต้องจับตาว่ามาตรการที่ธนาคารกลาง และรัฐบาลหลายประเทศต่างออกมาบรรเทาผลกระทบ จะเรียกความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนกลับมาได้มากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ คาดว่าตลาดจะยังคงได้รับแรงกดดันไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่การฟื้นตัวกลับมาของเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่ความสำเร็จในการค้นพบวัคซีนป้องกัน อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มคลี่คลายลง รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ก็อาจทำให้ความน่าสนใจลงทุนในทองคำลดลงไปได้

สำหรับบลจ.กสิกรไทย มีกองทุนปิดเค โกลด์ (K-GOLD) ซึ่งได้จัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2551 โดยกองทุนหลักมีนโยบายที่มุ่งสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำแท่งในตลาดโลก ซึ่งที่ผ่านมาสามารถทำผลงานได้ใกล้เคียงกับเกณฑ์มาตรฐาน โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน และ 1 ปี อยู่ที่ 7.28% และ 21.54%ต่อปี ตามลำดับ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำได้มีการปรับตัวผันผวน โดยเฉพาะจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดแรงขายสินทรัพย์ทุกประเภท รวมถึงทองคำเพื่อมาถือเงินสด

อย่างไรก็ดี ทองคำยังคงทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยภายใต้ความผันผวนได้ดี อีกทั้งการที่ธนาคารกลางในหลายประเทศต่างลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้สอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินแบบไม่จำกัดวงเงินของเฟด ล้วนถือเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ โดยบลจ.กสิกรไทย ยังคงแนะนำให้ผู้ลงทุนถือครองหน่วยลงทุนของกองทุน K-GOLD ในสัดส่วน 5-10% ของพอร์ต เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง มากกว่าการเข้าลงทุนเป็นสัดส่วนหลักของพอร์ต หรือ เข้าลงทุนเพื่อการเก็งกำไรในระยะสั้น

ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน K-GOLD มีการจ่ายปันผลรวมแล้วทั้งสิ้น 18 ครั้ง เป็นเงิน 4.95 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 กองทุนจ่ายปันผลในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 14 เมษายน 2563 มูลค่าทั้งสิ้น 196.61 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 เม.ย. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top