ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 30 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันที่ 15 เม.ย. 2563 (เวลา 11.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยอดสะสม 2,643 คน (+30)
  • รักษาหายแล้ว 1,497 คน (+92)
  • ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 1,103 คน
  • เสียชีวิต 43 คน (+2)

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น 30 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,643 คน จำนวนผู้ป่วยที่กลับบ้านได้แล้วรวมทั้งสิ้น 1,497 คน รักษาตัวอยู่ใน รพ.1,103 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 คน รวมเป็นผู้เสียชีวิตสะสม 43 คน

ผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นหญิงไทยวัย 65 ปี อาชีพขายอาหารที่ถนนคนเดิน มีโรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง โดยวันที่ 7 มี.ค.มีไข้สูงและไอ จึงซื้อยามากินเอง ต่อมาวันที่ 12 มี.ค.อาการไม่ดีขึ้นจึงไปตรวจที่ รพ.เอกชนใน จ.เชียงใหม่ มีประวัติสัมผัสผู้ปวยยืนยันซึ่งเป็นสมาชิกในบ้าน ต่อมาวันที่ 15 มี.ค.มีอาการหน้ามืดจึงไป รพ.เดิมและกลับมารักษาตัวที่บ้าน จากนั้นวันที่ 17 มี.ค.ส่งตรวจพบเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาในรพ.ของรัฐ, ในวันที่ 18 มี.ค.ยังรู้สึกตัวดีแต่มีอาการหอบเหนื่อย, วันที่ 19 มี.ค.แพทย์ให้ยาฟาวิพิราเวียร์, วันที่ 22 มี.ค.หายใจเหนื่อยหอบมากขึ้นเอ็กซ์เรย์พบปอดอักเสบรุนแรง, 6 เม.ย.ไม่รู้สึกตัว ความดันโลหิตตก และได้รับยากระตุ้นหัวใจ แต่ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 13 เม.ย.

อีกรายเป็นชายไทยวัย 60 ปี มีประวัติเดินทางไปร่วมพิธีทางศาสนาในประเทศอินโดนีเซีย กลับมาถึงประเทศไทยวันที่ 24 มี.ค. จากนั้นวันที่ 2 เม.ย.เริ่มมีไข้สูง 38.4 องศาฯ ปวดเมื่อยกล้ามจึงเข้ารักษาที่ รพ.ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับส่งตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และ อาการแย่ลง จนกระทั่งเสียชีวิตลงในวันที่ 14 เม.ย.

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้น 30 คนในวันนี้ กลุ่มแรก 29 คน เป็นผู้ป่วยรายใหม่ ซึ่งมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยหรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยรายก่อนหน้า, เป็นคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ, เดินทางไปสถานที่ชุมชน เป็นต้น ส่วนกลุ่มสอง 1 คน เป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา และเข้า State Quarantines

สำหรับจำนวนผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 2,643 รายนั้น มาจากทั้งหมด 68 จังหวัด โดย 10 จังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุด มีดังนี้ กรุงเทพฯ 1,328 คน, ภูเก็ต 190 คน, นนทบุรี 149 คน, สมุทรปราการ 108 คน, ยะลา 93 คน, ปัตตานี 85 คน, ชลบุรี 81 คน, สงขลา 56 คน, เชียงใหม่ 40 คน และปทุมธานี 33 คน โดยยังมีเพียง 9 จังหวัดที่ไม่มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แก่ กำแพงเพชร, ชัยนาท, ตราด, น่าน, บึงกาฬ, พิจิตร, ระนอง, สิงหบุรี และอ่างทอง

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ตามแหล่งติดเชื้อในกรุงเทพฯ ปริมณฑล (นนทบุรี-สมุทรปราการ) ช่วงเดือนมี.ค.63 มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 15% ติดเชื้อนอกบ้าน 77% และติดเชื้อในบ้าน 8% แต่ในเดือนเม.ย. มีผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างประเทศ 17% ติดเชื้อนอกบ้าน 60% และติดเชื้อในบ้านเพิ่มขึ้นเป็น 23%

โฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า ในช่วงวันที่ 15-17 เม.ย.นี้ จะมีเที่ยวบินที่นำคนไทยที่ตกค้างอยู่ต่างประเทศเดินทางกลับเข้าไทย ประกอบด้วย – 15 เม.ย.63 เวลา 22.00 น. เป็นเที่ยวบินมาจากเกาหลีใต้ 92 คน

  • 16 เม.ย.63 เวลา 11.00 น. เป็นเที่ยวบินมาจากอาหรับเอมิเรตส์ 120 คน
  • 16 เม.ย.63 เวลา 15.15 น. เป็นเที่ยวบินมาจากมัลดีฟส์ 70 คน
  • 17 เม.ย.63 เวลา 13.40 น. เป็นเที่ยวบินมาจากบังกลาเทศ 35 คน

นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะมีคนไทยเดินทางกลับมาจากต่างประเทศในวันที่ 18 เม.ย.นี้ กว่า 3 พันคน และส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้ Local Quarantines ในพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถรองรับได้เพียงพอว่า จากข้อมูลที่ได้รับรายงานของกระทรวงการต่างประเทศถึงจำนวนผู้ที่ได้ลงทะเบียน on line แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงวันที่ 15-18 เม.ย.นั้น

เชื่อว่าจะมีจำนวนไม่มากถึงขนาดนั้น ซึ่งจากการหารือของกระทรวงสาธารณสุขพบว่าถ้าเดินทางกลับเข้ามาคราวละไม่เกิน 200 คน กระบวนการกักตัวใน Local Quarantines จะยังสามารถรองรับได้ ซึ่งรวมถึงกรณีพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี หากมีปริมาณไม่เพียงพอก็ยังสามารถผ่องถ่ายไปยังจังหวัดอื่นที่ใกล้เคียงได้

ส่วนกรณีของนักเรียนไทยที่จะเดินทางกลับมาจากสหรัฐฯ นั้น นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า จะมีข้อมูลเพื่อชี้แจงในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 เม.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top