KBANK ร่วง 5.15% ผิดหวังงบ Q1/63 คาด Q2/63 ยังเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน

โบรกฯปรับลดประมาณการกำไรปี 63-64

หุ้น KBANK ราคาไหลลง 5.15% มาอยู่ที่ 92 บาท ลดลง 5 บาท มูลค่าซื้อขาย 673.30 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.36 น. โดยเปิดตลาดที่ 93.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 93.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 92 บาท

บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”รอซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว”สำหรับ KBANK ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 140 บาท ด้วยสถานการณ์ โควิด-19 เลวร้ายกว่าคาด จึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 ลงราว 17.1% และ 8.1% ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐาน Credit Cost ขึ้นเป็น 2.0% ในปี 63 และ 1.7% ในปี 64 (เดิมคาดปีละ 1.5%)

ทั้งนี้ คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/63 จะเผชิญปัจจัยลบรอบด้าน คือ (1) NIM ปรับตัวลดลง หลังจากธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย MOR MLR และ MRR ลง 40 bps (2) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีความผันผวน จากการตีมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุน (คือ เมืองไทย กรุ๊ป) ตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 และ (3) คาด Credit Cost ยังทรงตัวในระดับสูง ตามสถานการณ์ โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดย KBANK มีสัดส่วนลูกหนี้กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวสูงถึง 20.0% ของสินเชื่อรวมทั้งหมดของบริษัท

KBANK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/63 ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดอยู่ที่ 6,582 ล้านบาท ลดลง 34.5%YoY และ 25.2%QoQ ถูกกดดันจากผลขาดทุนการตีมูลค่ายุติธรรมเงินลงทุนตาม TFRS9 รวมถึงการตั้งสำรองที่สูงกว่าคาด คิดเป็น Credit Cost อยู่ที่ 235 bps แม้รายได้ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น ตาม NIM ที่สูงขึ้นเป็น 3.5% และสินเชื่อที่เติบโต แต่ก็ไม่สามารถชดเชยปัจจัยลบได้ทั้งหมด โดยในไตรมาส 1/63 พอร์ตสินเชื่อเติบโตอยู่ที่ 2.0 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7%YoY และ 2.1%QoQ หนุนจากสินเชื่อธุรกิจ (Corporate Loan) เป็นหลัก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top