ส.อ.ท.ตั้งอนุกรรมการ 7 ชุดช่วยสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.ได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ภาคอุตสาหกรรมขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือสมาชิกและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกำหนดแนวทางและมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งกำหนดแนวทางการเยียวยาเพื่อเสนอต่อภาครัฐ โดยมีคณะอนุกรรมการทั้งหมด 7 คณะ ดังนี้

  1. คณะอนุกรรมการมาตรการภาษีและการเงิน ทำหน้าที่รวบรวมมาตรการด้านภาษีและการเงินของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่สำคัญแจ้งให้สมาชิกทราบ
  2. คณะอนุกรรมการมาตรการแรงงาน ทำหน้าที่รวบรวมมาตรการด้านแรงงาน อาทิ สิทธิประโยชน์ด้านประกันสังคม รวมทั้งมาตรการเยียวยาต่างๆ จากภาครัฐ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่สำคัญแจ้งให้สมาชิกทราบ
  3. คณะอนุกรรมการมาตรการโลจิสติกส์ ทำหน้าที่รวบรวมมาตรการในด้านโลจิสติกส์ การขนส่งข้ามแดน จัดทำฐานข้อมูลและแนวทางปฏิบัติเพื่อสื่อสารไปยังสมาชิก
  4. คณะอนุกรรมการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำหน้าที่รวบรวมมาตรการที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขอนามัย รวมทั้งจัดทำมาตรการการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทำงาน และรวบรวมรายชื่อผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้อง
  5. คณะอนุกรรมการสนับสนุนสมาชิก จัดทำโครงการช่วยเหลือสังคมในนาม ส.อ.ท. จัดทำแผนการจำหน่ายสินค้าป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งจัดตั้งศูนย์บริการให้ข้อมูลรับฟังปัญหาในการดำเนินธุรกิจของสมาชิก
  6. คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ อาทิ มาตรการต่างๆ ของ ส.อ.ท. และภาครัฐ เผยแพร่ไปยังสมาชิก สภาอุตสาหกรรมจังหวัด กลุ่มอุตสาหกรรม และสื่อมวลชน
  7. คณะอนุกรรมการฟื้นฟูหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ทำหน้าที่จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการของสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด-19 พร้อมกำหนดแนวทางเยียวยาและช่วยเหลือสมาชิกในการดำเนินธุรกิจ

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ส.อ.ท.ยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อช่วยเหลือสมาชิกและผู้ประกอบการให้ก้าวข้ามวิกฤตการณ์นี้ไปให้ได้ รวมทั้งดูแลบุคลากรทางการแพทย์และสังคมให้ปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อนำพาภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไทยให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 63)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top