ศบค.มีมติคลายล็อกเฟส 2 ขยับเคอร์ฟิวเป็นห้าทุ่ม เริ่ม 17 พ.ค.นี้

  • ศบค.ปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23.00 น. ถึง 04.00 น. พร้อมผ่อนคลายหลายมาตรการ
  • ศบค.แถลงคลายล็อก ร้านอาหารในหน่วยงาน-ห้างฯ-ฟู้ดคอร์ท-เสริมความงาม-ฟิตเนสแต่ห้ามใช้เครื่อง-แข่งกีฬาไม่มีผู้ชม-สระว่ายน้ำ
  • ศบค.ให้เปิดห้องประชุม-ศูนย์ประชุมรวมถึงในโรงแรม กองถ่ายไม่เกิน 50 คน
  • ศบค.ให้คงจำกัดการเดินทางเข้า-ออกประเทศทุกช่องทาง
  • ศบค.ให้ผ่อนผันกิจกรรมรวมตัว-เดินทางข้ามจังหวัด-เคอร์ฟิวในการจัดเลือกตั้งซ่อม
  • ศบค.เบรกเปิดเมืองภูเก็ตออกไป 1 สัปดาห์รอดูสถานการณ์ให้รอบคอบ

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้ผ่อนปรนมาตรการสกัดกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระยะที่ 2 เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ โดยจะเริ่มในวันที่ 17 พ.ค. แต่จะต้องอยู่ภายใต้การคุมเข้มด้านสุขอนามัยเพื่อป้องกันการกลับมาระบาดอีกระลอก

ทั้งนี้ การผ่อนคลายในครั้งนี้จะเป็นกิจการ/กิจกรรมในกลุ่มสีเขียว คือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดในเกณฑ์ปานกลาง และมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในเกณฑ์สูง

กลุ่มแรก ด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต ประกอบด้วย

1.การจำหน่ายอาหาร หรือ เครื่องดื่ม ในอาคารสำนักงาน โรงอาหารหรือศูนย์อาหาร ภายในหน่วยงาน ซึ่งจะต้องจัดระเบียบการเข้าใช้บริการตามมาตรการป้องกันโรค หรือให้นำกลับไปบริโภคที่อื่น และยังห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน

2.ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ฯลฯ ทั้งในส่วนของการจำหน่ายสินค้าอุปโภค, ร้านขายปลีกคอมพิวเตอร์, หนังสือ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องนอน, วัสดุก่อสร้าง, เฟอร์นิเจอร์, วัสดุสำนักงาน, เครื่องครัวและอุปกรณ์จำเป็นภายในครัวเรือน, ดอกไม้ ต้นไม้, เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย, เครื่องสำอาง และ อุปกรณ์กีฬา

สินค้าโภคภัณฑ์ ทอง เครื่องประดับ จิวเวลรี่, บริการอินเตอร์เน็ต, ซักอบรีด, ซ่อมแซมเครื่องใช้อุปกรณ์, เครื่องถ่ายเอกสาร ซ่อม-เปลี่ยน, ประดับยนต์, ล้างรถยนต์, ธุรกิจบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล, บริษัทประกันภัย ประกันชีวิต, คลีนิกเวชกรรม สถานทันตกรรม, ห้องรับรอง, ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม เฉพาะสระ ตัด ซอยผม แต่งผม และร้านทำเล็บ

รวมทั้ง ร้านอาหาร, ภัตตาคาร, ฟู้ดคอร์ท และศูนย์อาหาร

แต่ยังมีส่วนที่ต้องปิดต่อไป ได้แก่ โรงภาพยนตร์, โบว์ลิ่ง, สเก็ต, คาราโอเกะ, สวนสนุก, สวนน้ำ, สวนสัตว์, พื้นที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและแข่งขันกีฬา, ตู้เกมส์ เครื่องเล่นหยอดเหรียญ, โรงเรียนและสถาบันกวดวิชา, สถานที่จัดนิทรรศการ, สนามพระเครื่อง, ร้านนวดแผนไทย สปา เป็นต้น

3.ร้านค้าปลีก ค้าส่งขนาดใหญ่ เช่น ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ขนาดใหญ่ ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ เช่น ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดไท ตลาดผลไม้ แต่ต้องมีการควบคุมทางเข้าออก จัดให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิผู้ให้บริการและใช้บริการ เว้นระยะห่างของคนและแผงค้า จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเปิดบริการตามมาตรการที่กำหนด

4.คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม เฉพาะเรือนร่าง ผิวพรรณและเลเซอร์ ยกเว้นใบหน้า แต่ยังไม่ให้เปิด สถานควบคุมน้ำหนัก สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร และ อาบ อบ นวด

กลุ่มกิจกรรมด้านการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ

5.โรงยิม สถานที่ออกกำลังกายในร่ม เฉพาะกีฬาที่ไม่มีลักษณะการปะทะกัน โดยอาจเล่นไม่เกินทีมละ 3 คน และไม่มีผู้ชม ได้แก่ แบดมินตัน ตะกร้อ โยคะ สควอช ฟันดาบ ยิมนาสติก ปีนผา , สถานออกกำลังกาย (ฟิตเนส) เฉพาะส่วน ฟรีเวท ห้ามใช้ลู่วิ่ง จักรยานปั่น เครื่อง Elliptical และเครื่องออกำลังกายอื่น ๆ

6.สระว่ายน้ำสาธารณะทั้งกลางแจ้งและในร่ม จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามเลนของการว่ายน้ำความกว้างไม่น้อยกว่า 7 ฟุต จำกัดเวลาใช้บริการไม่เกิน 1 ชม.

แต่ยังไม่ให้เปิดสนามมวย โรงแรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) สวนน้ำตามบึงธรรมชาติ กีฬาทางน้ำ

ขณะที่กลุ่มกิจกรรมอื่นๆ ที่อนุญาตให้เปิดได้ มีดังนี้

  • ห้องประชุมโรงแรม ศูนย์ประชุม เปิดเฉพาะให้บริการจัดประชุมขององค์กร หรือหน่วยงาน ลักษณะจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม แต่ยังให้ยกเว้นการจัดเลี้ยง อบรมสัมมนา จัดแสดงสินค้า อีเว้นท์ จัดนิทรรศการ
  • ห้องสมุด แกลอรี่ พิพิธภัณฑ์ ทั้งทางด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ การแพทย์และสาธารณสุข พิพิธภัณฑ์ประจำเมืองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยและการศึกษา
  • กิจการถ่ายภาพยนต์และวีดีทัศน์ จำกัดผู้เข้าร่วม โดยรวมทีมงานหน้าฉากและทุกแผนกต้องไม่เกิน 50 คน

นอกจากนั้น ศบค.ยังให้คงมาตรการบังคับใช้กฎหมาย ได้แก่ การเดินทางเข้าราชอาณาจักรทุกช่องทาง ทั้งทางบก/น้ำ/อากาศ ยังคงมาตรการเดิม และ งดหรือชะลอการเคลื่อนย้ายข้างจังหวัด

อย่างไรก็ตาม ศบค.ให้ปรับระยะเวลาการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) เป็น 23.00 น.-04.00 น.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 63)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top