ทูตคูเวต ชื่มชมไทยจัดการโควิด-19 พร้อมร่วมมือทวิภาคีด้านพลังงาน-เกษตร-แรงงาน

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลหารือภายหลังนายมุฮัมมัด ฮุซัยน์ เอ็ม เอ อัลฟัยลากาวี (H.E. Mr. Mohammad Husain M A Alfailakawi) เอกอัครราชทูตรัฐคูเวตประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ว่า ได้ชื่นชมการเป็นผู้นำของนายก

รัฐมนตรีในการแก้ปัญหาสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่สามารถใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงจำนวนมาก รวมถึงชื่นชมความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีมาตรฐานคุณภาพสูงในการรักษาดูแลผู้ป่วยได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งทางเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ในไทย และได้รายงานไปยังรัฐบาลคูเวตเป็นประจำทุกวันเพื่อเรียนรู้ความสำเร็จของไทยไปปรับใช้กับคูเวตต่อไป

ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีในด้านต่างๆ ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงาน เกษตรกรรม และแรงงาน ซึ่งไทยพร้อมส่งออกสินค้าประเภทอาหารทะเล รวมไปถึงอาหารสดและอาหารแปรรูปที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนคูเวตในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตลอดจนดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของแผนพัฒนา “Kuwait 2035” โดยเห็นพ้องจะเพิ่มมูลค่าทางการค้าและการลงทุนร่วมกัน

โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนคูเวตเข้ามาลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถือเป็นโครงการรวมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของไทย สอดคล้องกับความต้องการของคูเวตที่ต้องการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร รวมทั้งยินดีที่คูเวตแสดงความประสงค์ที่จะมีความร่วมมือกับไทยในด้านแรงงาน เพราะชื่นชมในความสามารถและศักยภาพแรงงานไทย

นายกรัฐมนตรีได้ฝากคำชื่นชมและระลึกถึงเชค เศาะบาฮ์ อัลอะห์มัด อัลญา บิร อัศเศาะบาฮ์ (His Highness Sheikh Sabah Al-Ahmed Al-Jaber Al-Sabah) เจ้าผู้ครองรัฐคูเวตที่ทรงสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่างๆ ผ่านนโยบายและบทบาทด้านมนุษยธรรม สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลไทย และขอบคุณรัฐบาลคูเวตที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการพัฒนาในประเทศไทยผ่านกองทุนคูเวตเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ (Kuwait Fund for Arab Economic Development) ซึ่งได้ก่อสร้างเขื่อนรัชชประภา โรงไฟฟ้าบางปะกง และโรงไฟฟ้าปัตตานี ที่ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาด้านพลังงานและคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเอกอัครราชทูตยินดีที่จะทำงานเป็นผู้ประสานเพื่อกระชับความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนและพัฒนาภาคส่วนต่างๆ ร่วมกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 63)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top