กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และบางวันก็แทบจะไม่มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตก็ต่ำกว่า 2%
ด้านรัฐบาลได้รับมือกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากโควิด-19 ด้วยการอัดฉีดเงินกู้ การอนุมัติมาตรการเยียวยาผลกระทบที่แบ่งออกเป็น 3 เฟสให้กับประชาชน 3 กลุ่ม คือ ผู้ประกอบการ พนักงานเงินเดือน และภาคครัวเรือน เพื่อรักษาสภาพคล่องและให้ประชาชนยังมีเงินสดอยู่ในมือ
กลุ่มผู้สังเกตการณ์มองว่า หากเศรษฐกิจประเทศเปรียบเสมือนกับผู้ป่วยที่ต้องการอ็อกซิเจนแล้ว กระแสเงินสดที่อัดฉีดโดยรัฐบาลก็เปรียบได้กับลมหายใจและอากาศที่บริสุทธิ์
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังช่วยลดภาระของประชาชนด้วยการมอบส่วนลดค่าน้ำและค่าไฟ พร้อมยืดระยะเวลาการชำระภาษีออกไป รวมถึงลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากระดับเดิมที่ 3% เหลือเพียง 1.5% เป็นเวลา 6 เดือน
นอกจากนี้ ไทยยังได้พัฒนาความสามารถด้านการวิจัยและเทคโนโลยี โดยเฉพาะนวัตกรรมการรักษาทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบัน ไทยมีหุ่นยนต์ที่คอยช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ รวมทั้งระบบการแพทย์ทางไกลที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย ตลอดจนผลักดันให้มีการทำธุรกิจแบบออนไลน์ ตามมาตรฐานวิถีชีวิตใหม่ (New Normal)
อนึ่ง รัฐบาลได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งการผ่อนคลายนั้นจะค่อย ๆ ทยอยดำเนินการไปอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อระมัดระวังไม่ให้เกิดการระบาดรอบใหม่อีกครั้ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ค. 63)
Tags: COVID-19, กระทรวงการต่างประเทศ, การแพทย์, วิจัย, เทคโนโลยี, โควิด-19