ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 1 ราย มาจากอียิปต์

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 3,158 คน (+1)
    • เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ = 0 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 1 ราย
  • ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 31
  • รักษาหายแล้ว 3,038 คน (+12)
  • ผู้ป่วยรักษาอยู่โรงพยาบาล 62 คน (-11)
  • เสียชีวิตสะสม 58 คน (+0)

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ในสถานกักกันตัวของรัฐ (State Quarantine) ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ภายในประเทศไม่พบรายใหม่ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 31 วัน

สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,158 ราย วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มอีก 12 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,018 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 62 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นชายวัย 24 ปีอาชีพนักศึกษา เดินทางมาจากประเทศอียิปต์ถึงประเทศไทยในวันที่ 9 มิ.ย. เข้าพักในสถานกักกันตัวของรัฐที่ จ.ชลบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้โดยสารที่เดินทางมาในเที่ยวบินเดียวกัน 2 รายติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการ ซึ่งผู้ป่วยรายใหม่ตรวจหาเชื้อครั้งแรกในวันที่ 13 มิ.ย.แต่ไม่พบเชื้อ ต่อมาตรวจหาเชื้อรอบที่ 2 ในวันที่ 23 มิ.ย.พบเชื้อแต่ไม่มีอาการป่วย

พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค.ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ปกคอรงในการดูแลบุตรหลานที่เป็นเด็กเล็ก ซึ่งใกล้ช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ว่า ในกรณีของเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปีที่จะต้องไปโรงเรียน หรือศูนย์เด็กเล็กนั้น หากพบว่าเด็กมีอาการไข้ ไอ หรือเจ็บคอ ผู้ปกครองควรให้หยุดเรียนเพื่อสังเกตอาการอยู่ที่บ้านก่อน หาก 2-3 วันอาการยังไม่ดีขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์

นอกจากนี้ ถ้าในบ้านมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ก็ไม่ควรให้บุตรหลานเข้าไปใกล้ชิด เพราะผู้สูงอายุหากได้รับเชื้อจะมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป

ทั้งนี้ เมื่อบุตรหลานกลับจากโรงเรียนมาถึงบ้านแล้ว ก็ควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ขณะเดียวกัน ต้องส่งเสริมให้บุตรหลานรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ เป็นอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หมั่นออกกำลังกาย และนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 9 ชม.

อย่างไรก็ดี หากผู้ปกครองต้องการพาบุตรหลานออกไปเที่ยวนอกบ้านในวันหยุดก็ควรเลือกสถานที่ที่ไม่มีคนแออัดมาก แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรให้เด็กสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top