วันนี้ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่

  • ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 3,162 คน (+0)
    • เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ = 0 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 0 ราย
  • ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 33
  • รักษาหายแล้ว 3,053 คน (+13)
  • ผู้ป่วยรักษาอยู่โรงพยาบาล 51 คน (-13)
  • เสียชีวิตสะสม 58 คน (+0)

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า ไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ โดยภายในประเทศไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 33 วัน

สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,162 ราย วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มอีก 13 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,053 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 51 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย

ส่วนสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อรวม 9,904,963 ราย อาการรุนแรง 57,643 ราย รักษาหายแล้ว 5,357,840 ราย เสียชีวิต 496,866 ราย

อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด

1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 2,552,956 ราย
2.บราซิล จำนวน 1,280,054 ราย
3.รัสเซีย จำนวน 620,794 ราย
4.อินเดีย จำนวน 509,446 ราย
5.สหราชอาณาจักร จำนวน 309,360 ราย

ขณะที่ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 95 จำนวน 3,162 ราย

ศบค.ระบุว่า ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 โรงเรียนจะเปิดเรียนแบบวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ทุกโรงเรียนต้องดำเนินการป้องกันการแพร่เชื้อในสถานศึกษาตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดย การคัดกรองวัดไข้ก่อนเข้าโรงเรียน ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่ในโรงเรียน จัดจุดล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างเพียงพอ เว้นระยะห่างในห้องเรียน เน้นจัดการเรียนการสอนเพื่อลดความแออัด มีการสลับกลุ่มแบ่งนักเรียน ลดการทำกิจกรรมกลุ่ม หากจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลุ่มควรเป็นกลุ่มเล็ก เน้นการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่างๆ ที่ใช้ร่วมกัน อาทิ สนามเด็กเล่น ลูกบิดประตู ห้องน้ำ

สิ่งสำคัญคือผู้ปกครองต้องให้ความร่วมมือในการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวเองให้บุตรหลาน เช่น หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า แอลกอฮอล์เจลล้างมือ หลังเลิกเรียนควรรีบกลับบ้านอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที หากเด็กป่วย มีไข้ ไอ จาม ต้องให้เด็กหยุดเรียนรักษาตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น

สำหรับประชาชนขอให้ดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรงช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง รับประทานอาหารครบ 5หมู่ กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาความอบอุ่นของร่างกาย และสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top