ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 1 ราย กลับมาจากสิงคโปร์

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 3,250 คน (+1)
    • เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ = 0 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 1 ราย
  • ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 56
  • รักษาหายแล้ว 3,096 คน (+0)
  • ผู้ป่วยรักษาอยู่โรงพยาบาล 96 คน (+1)
  • เสียชีวิตสะสม 58 คน (+0)

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากสิงคโปร์ ส่วนในประเทศไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.เป็นต้นมา

สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,250 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และผู้ป่วยใน State Quarantine จำนวน 313 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,096 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 96 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นชายไทย อายุ 52 ปี อาชีพช่างไฟฟ้า เดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์ถึงไทยวันที่ 6 ก.ค. โดยเป็นเที่ยวบินเดียวกับที่เคยรายงานก่อนหน้านี้แล้ว 1 ราย เข้าพัก State Quarantine ที่กรุงเทพมหานคร และตรวจหาเชื้อในวันที่ 17 ก.ค. ผลตรวจพบเชื้อแต่ไม่มีอาการ โดยสำหรับสิงคโปร์มีการเดินทางเข้าไทย 1,618 ราย พบเชื้อ 5 ราย

สำหรับจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศ วันนี้มีจำนวน 630 คน โดยมาจาก 5 เที่ยวบิน ซึ่งถือว่าเกินโควต้า ส่วนวันพรุ่งนี้จะมีเดินทางมา 5 เที่ยวบิน จำนวน 516 คน

“ตอนนี้ 600 ถือว่าเต็มศักยภาพ เพราะในการดำเนินการจะต้องใช้ทรัพยากรคนเยอะมาก โดยได้ปรับเพิ่มโควต้าจากตอนแรกมากขึ้นเรื่อยๆ จากวันละ 200 ราย มาเป็น 600 รายในปัจจุบันซึ่งสถานกักกันโรคของรัฐในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยังมีพอที่จะรับได้ แต่กำลังปรับมาใช้เป็นแบบ ASQ (Alternative State Quarantine) อาจจะขยายตรงนี้ก่อน” กล่าว

โฆษก ศบค.

ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 217,312 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม 14,641,819 ราย เสียชีวิตสะสม 608,902 ราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่มากสุด 65,279 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสมมากสุด 3,898,550 ราย เสียชีวิตสะสมมากสุด 143,2892 ราย ขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 101

“ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกมีการติดเชื้อกว่า 14 ล้านคน คงเป็นไปได้ยากที่จะคาดหมายไม่ให้เจอผู้ติดเชื้อ แต่เรามีระบบป้องกันดูแลเต็มที่”

ส่วนความคืบหน้าในการตรวจหาเชื้อจากผู้สัมผัสกรณีทหารอียิปต์ที่จังหวัดระยอง 6,501 ราย ไม่พบเชื้อ 6,287 ราย รอผล 214 ราย ส่วนกรณีเด็กหญิงชาวซูดานในกรุงเทพฯ 364 ราย ไม่พบเชื้อ หรือเรียกว่าปิดเคสได้แล้ว

โฆษก ศบค.กล่าวว่า ในวันที่ 22 ก.ค.นี้จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่เพื่อพิจารณากรณีเปิดให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 4 ประเภท คือ 1.กลุ่มที่เข้ามาจัดงานแสดงสินค้า 2.กลุ่มที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ 3.กลุ่มแรงงาน 3 สัญชาติในอุตสาหกรรมที่ขาดแคลนแรงงาน ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมก่อสร้าง และ 4.กลุ่มที่เข้ามาตามโครงการ Medical & Wellness Program เพื่อเข้ารับบริการทางสุภาพ ได้แก่ ศัลยกรรมความงาม การแก้ปัญหามีบุตรยาก

ส่วนกรณีชาวต่างชาติที่พักอาศัยตามอาคารชุดนั้น หากเป็นผู้ที่ผ่านขั้นตอนการคัดกรองและการกักตัวตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดแล้วก็มีความปลอดภัยเหมือนบุคคลทั่วไป เพราะบางคนก็อยู่ในประเทศไทยมานานแล้วแต่มีธุระจำเป็นที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการดูแลของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยึดถือมาตรการดูแลสุขอนามัยอย่างต่อเนื่องไป ซึ่งเป็นข้อดีของคนไทยทุกคนที่ให้ความร่วมมือกัน และมีจิตอาสา ทำให้ประสบความสำเร็จในการป้องกันการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top