PwC ชี้โควิดกระทบหลายธุรกิจ คาดใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีฟื้นตัว

แนะปรับตัวสู่โหมดดิจิทัล

นายชาญชัย ชัยประสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีในการฟื้นตัวกลับมาสู่ปกติหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากสร้างผลกระทบอย่างมากต่อหลายธุรกิจ ซึ่งข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พบว่าในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.63 ภาพรวมกำลังการผลิตของประเทศลดลงเหลือเพียง 20-30%

เพราะธุรกิจที่พึ่งพารายได้จากต่างประเทศได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ ทั้งการส่งออกและธุรกิจ Hospitality ที่เคยเป็นเครื่องจักรหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และแม้ว่าจะพยายามกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศมาทดแทน แต่ก็ยังไม่สามารถฉุดภาพรวมให้ฟื้นตัวขึ้นมาได้มากนัก

ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบชัดเจน คือ โรงแรม ขาดสภาพคล่องอย่างหนักจากการปิดกิจการชั่วคราวในช่วงล็อกดาวน์ แม้ว่าขณะนี้จะกลับมาเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวในประเทศได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างรายได้ได้อย่างเต็มที่เหมือนเช่นในช่วงปกติ โดยในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ธุรกิจโรงแรมอาจแย่ลงอีก หากไม่สามารถเปิดประเทศได้ ทำให้คาดว่าจะเห็นการขายกิจการเกิดขึ้นในระยะหลังจากนี้ เพราะมีเจ้าของโรงแรมหลายแห่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ บอกขายกิจการกันแล้ว แต่ขณะนี้ฝั่งผู้ซื้อยังไม่รีบร้อนจะเข้ามาซื้อ เนื่องจากหวังว่ามูลค่ากิจการอาจจะต่ำลงกว่านี้ได้อีก

“ตอนนี้เจ้าของโรงแรมที่ภูเก็ต สมุย บอกขายโรงแรมกันเยอะ เป็นหนี้ แถมกระแสเงินสดยังติดขัด ถ้าเงินสดหมดก็ต้องขายอยู่ดี คนซื้อเขาก็ไม่รีบ กองทุนขนาดใหญ่เขารอได้ เพราะเชื่อว่า Q3-Q4 อาจจะแย่กว่านี้ ถึงตอนนั้นน่าจะได้ราคาถูกกว่านี้” นายชาญชัย กล่าว

นอกจากนี้ ธุรกิจโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่เน้นให้บริการผู้ป่วยต่างชาติก็ประสบปัญหาจากการปิดน่านฟ้า แม้ว่าคนไทยที่เป็นลูกค้าจะกลับเข้ามาใช้บริการบ้างแล้ว แต่ก็ได้ตัดรายจ่ายการดูแลสุขภาพไปมาก เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจหดตัว

กลุ่มที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากอีกกลุ่ม คือ กลุ่มยานยนต์ ที่เห็นได้ชัดจากยอดขายที่หดตัวอย่างมาก ทำให้ค่ายรถยนต์ต่างออกโปรโมชั่นขนานใหญ่ในงานมอร์เตอร์โชว์ที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งส่งผลกระทบในด้านต้นทุน ขณะที่ยอดการผลิตที่ลดลงยังทำให้ต้นทุนต่อหน่วยสูงขึ้น ผู้ประกอบการจึงมักจะลดต้นทุนด้านพนักงานลง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประเทศ

แต่ในวิกฤติโควิดนี้ มีธุรกิจที่ได้รับผลดีค่อนข้างมาก คือ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจต่างพยายามหานวัตกรรมใหม่เข้ามาปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงโควิด เช่น ธุรกิจร้านอาหาร ต้องหันมาทำดิลิเวอร์รี่ ปรับแพ็คเกจให้เหมาะกับการขนส่ง ปรับจากการขายหน้าร้านมาอยู่บนออนไลน์แทน เป็นต้น ทำให้ธุรกิจด้านดิจิทัลเติบโตขึ้นมาก อีกทั้งพบว่าภาคธุรกิจที่ปรับลดงบลงทุนหรือค่าใช้จ่ายในช่วงโควิด กลับเพิ่มงบด้านดิจิทัลมากขึ้น โดยประเมินว่าทุกธุรกิจจะต้องเข้าสู่โหมดดิจิทัลภายใน 3-5 ปี จากเดิมที่โครงสร้างองค์กรจะเป็นรูปสามเหลี่ยม แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้าอาจพลิกเป็นสามเหลี่ยมกลับหัว และเป็นสามเหลี่ยมที่มีขนาดเล็กลง เนื่องจากพนักงาน โดยเฉพาะระดับล่างจะถูกแทนด้วยเทคโนโลยี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ส.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top