บจ.ตลาด mai ครึ่งแรกปี 63 กำไรวูบ 73%

ชี้เป็นผลจากบางบจ.บันทึกผลขาดทุดจากรายการพิเศษ โดยภาพรวมส่วนใหญ่รับผลกระทบจากโควิด-19

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนใน mai จำนวน 162 บริษัท คิดเป็น 95% จากทั้งหมด 171 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC บริษัทที่ปิดงบไม่ตรงงวดและบริษัทที่นำส่งงบไม่ทันตามกำหนด) นำส่งผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนแรก ของปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 พบ บจ. ที่รายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 99 บริษัท คิดเป็น 61% ของบริษัทที่นำส่งผลการดำเนินงานทั้งหมด

ผลประกอบการ บจ. mai ครึ่งปีแรก มียอดขายรวม 82,540 ล้านบาท ลดลง 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ต้นทุนรวม 64,705 ล้านบาท ลดลง 8.2% มีกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) 3,068 ล้านบาท ลดลง 8.3%

ทั้งนี้พบบาง บจ. มีการบันทึกผลขาดทุนจากรายการพิเศษระดับกว่าพันล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 1,086 ล้านบาท ลดลง 73.0% สำหรับความสามารถในการทำกำไร บจ.มีอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวอยู่ที่ 21.6% อัตรากำไรจากการดำเนินงานทรงตัวอยู่ที่ 3.7% และอัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 4.3% เป็น 1.3% สอดคล้องกับการลดลงของกำไรสุทธิ

“ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก บจ. ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จากการปิดชั่วคราวของช่องทางการจัดจำหน่าย การชะลอคำสั่งซื้อ การเลื่อนกิจกรรมตามนโยบายควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลให้ยอดขายรวมในครึ่งปีแรกลดลง อย่างไรก็ตามกลุ่มบจ.สามารถควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ทำให้ยังคงรักษาอัตราความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ และพบ 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงรักษาการเติบโตของกำไรสุทธิ คือ กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มเทคโนโลยี” นายประพันธ์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 บจ. mai มียอดขายรวม 38,413 ล้านบาท ลดลง 14.2% กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) 1,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้น12.2% ขณะที่กำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 338 ลบ. ลดลง 84.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในส่วนของฐานะทางการเงิน บจ. mai มีสินทรัพย์รวม 285,791 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากสิ้นปี 2562 ขณะที่โครงสร้างเงินทุนรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแรง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.11 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.02 เท่า

ปัจจุบันมี บจ. ใน mai 171 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2563) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 300.60 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 218,211 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 994 ล้านบาทต่อวัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ส.ค. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top