กองสลากฯ เตรียมรื้อโควตา เปิดลงทะเบียนผู้ค้าใหม่เสนอบอร์ด 23 ก.ย.นี้

นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวในการเสวนา “การปรับโครงสร้างการกระจายสลาก รวมถึงการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา” ว่า เริ่มเห็นสัญญาณทำให้สลากมีราคาเพิ่มขึ้นสูงกว่า 90 บาทต่อใบในช่วง 2-3 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการมีผู้ขายหน้าใหม่เข้ามาในระบบมากขึ้นกว่า 1 แสนคน และจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อผู้ขายสลากเพิ่มขึ้น จึงมีความต้องการสลากนำไปขายต่อประชาชนสูงขึ้น ส่งผลให้มีการหาสลากที่ตลาดขายส่ง

นอกจากนี้ เมื่อเห็นสลากมีราคาสูง คนขายจริงจึงเปลี่ยนสภาพเป็นคนขายช่วงแทน เพื่อหวังกำไรเฉพาะหน้า และนำเงินกำไรไปซื้อรอบสองที่ตลาดขายส่ง ยิ่งทำให้สลากมีราคาที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ดสลาก) จะมีการประชุมในวันที่ 23 ก.ย. เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเบื้องต้นจะมีการพิจารณาการเปิดลงทะเบียนของผู้ขายสลากใหม่ทั้งระบบ ทั้งในส่วนระบบโควตาและระบบทั่วไป เนื่องจากมีการลงทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2557 โดย คณะกรรมการบริหารจัดการสลากจะมีการสรุปอีกครั้ง ก่อนเสนอบอร์ดพิจารณาต่อไป

“การพิมพ์สลากเพิ่มไม่ใช่ประเด็นที่ถูกต้อง น่าจะดำเนินการตัดตอนคนที่ขายช่วง รวมถึงแนะนำให้มีการลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากลงทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2557 โดย สนง.สลากเห็นว่าน่าจะสมดุลแล้ว ไม่ต้องมีคนขายเพิ่ม แต่เมื่อทุกฝ่ายเห็นต้องกันในการลงทะเบียนใหม่ จะรับไว้พิจารณาและนำเสนอบอร์ด”

นายธนวรรธน์ กล่าว

จากการรับฟังความเห็นของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าขายที่อยู่ในระบบโควตา ผู้ค้ารายย่อย รวมถึงคนขายที่ไม่ได้โควตา หรือไม่ได้รับการจัดสรรสลาก ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ รวมถึงสื่อมวลชน ได้ร่วมเสนอทางออก ในการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยบางกลุ่มเห็นว่าควรเพิ่มสลากให้ตรงตามความต้องกรของผู้ขาย ควรลดราคาสลาก ลดเหลือราคาฉบับละ 40 บาท หรือ 20 บาท ให้รายย่อยอยู่ได้ เพราะการขายเปลี่ยนมือจะถูกกำจัดออกไป บางกลุ่มเห็นว่าไม่ควรเพิ่ม ยิ่งมีสลากเพิ่ม ยิ่งรวมชุดง่ายขึ้น ผู้เสียประโยชน์คือผู้จำหน่ายรายย่อย

นอกจากนี้ ได้เสนอแนวทางป้องกันการเปลี่ยนมือ โดยมีการลงทะเบียนที่ปลายทาง ให้แสดงบัตรตัวแทนและจุดขาย ควรทำประกันกลุ่มให้ผู้จำหน่าย ส่วนการจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ขอให้ดูแลผู้ค้าเดิม คือสลากใบ และรองรับคนรุ่นใหม่ ซื้อผ่านมือถือ ควรมีระบบการสะสมเงินให้กับผู้ซื้อทีละสองบาทสามบาท เหมือนการสะสมเงินออมให้กับผู้ซื้อ เหมือนกองทุนการออม ให้ยกเลิกการจับกุมผู้จำหน่าย เนื่องจากสลาก 5 เล่มไม่พอขาย จำเป็นต้องซื้อมาเพิ่ม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ก.ย. 63)

Tags: , , ,
Back to Top