ศาลรธน.รับคำร้องปมจัดชุมนุม มธ.ศูนย์รังสิต เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่

ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องกรณีกลุ่มบุคคลจัดชุมนุมปราศรัย เฉพาะการจัดชุมนุมในวันที่ 10 ส.ค.63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ไว้พิจารณาวินิจฉัยว่าเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่

คดีนี้นายณฐพร โตประยูร ผู้ร้อง ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยผู้ร้องกล่าวอ้างว่าผู้ถูกร้อง ซึ่งประกอบด้วยคณะบุคคลกลุ่มต่างๆ จัดการชุมนุมปราศัยเมื่อวันที่ 3 ส.ค.63, 9 ส.ค.63, 10 ส.ค.63, 20 ส.ค.63, 21 ส.ค.63 และวันที่ 30 ส.ค.63 ซึ่งเมื่อวันที่ 18 ส.ค.63 ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสองแล้ว ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและมีคำสั่งให้คณะบุคคลเลิกกระทำการดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่าแม้ผู้ร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การกระทำของคณะบุคคลกลุ่มต่างๆ ในการจัดการชุมนุมปราศรัย รวม 6 ครั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 หรือไม่ก็ตาม

แต่ข้อเท็จจริงตามคำร้อง ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 18 ส.ค.63 ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด ขอให้พิจารณาเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง เกี่ยวกับการจัดการชุมนุมปราศรัยของคณะบุคคล ในวันที่ 10 ส.ค.63 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งตามคำร้องระบุว่า การชุมนุมปราศรัยในวันดังกล่าว มีผู้กล่าวปราศรัย 3 คน ที่มีการกระทำตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง คือ นายอานนท์ นำภา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ปรากฎตามเอกสารแนบท้ายคำร้อง หมายเลข 1 กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

ส่วนตามคำร้องที่กล่าวอ้างว่ามีการปราศรัยในการชุมนุมครั้งอื่น ตามเอกสารแนบท้ายคำร้องหมายเลข 1 ไม่ปรากฎว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งรับคำร้องเฉพาะการกระทำของผู้ถูกร้องทั้ง 3 ที่ชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค.63 ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งนำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้งสาม เพื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง และเพื่อประโยชน์แก่การพิจารณา มีคำสั่งให้อัยการสูงสุดแจ้งผลการดำเนินการ และส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามที่ผู้ร้องยื่น เมื่อวันที่ 18 ส.ค.63 ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ย. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top