‘กรมอนามัย’ เปิดปฎิบัติการยับยั้ง-ป้องกัน การแพร่กระจายไวรัสอู่ฮั่น

กลายเป็นวิกฤตโรคระบาดใหม่ครั้งใหญ่ของโลกจาก “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” หรือ “ไวรัสอู่ฮั่น” แพร่ระบาดรุนแรงจากจุดศูนย์กลางในประเทศจีน ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้วันนี้ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำของการระบาดเมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่ายังเป็นพื้นที่พบเชื้อ สะท้อนจากจำนวนผู้เข้าข่ายและผู้ติดเชื้อในไทยที่เพิ่มขึ้น

ดังนั้นแนวทางปฎิบัติและขั้นตอนป้องกันตัวเองและคนในครอบครัวอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้

นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยกับ “อินโฟเควสท์” ว่า ปัจจุบันกรมอนามัยมุ่งให้ความสำคัญคือต้องการกระตุ้นภาคสังคมและชุมชนมีความรู้เกี่ยวกับวิธีป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากการได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา แม้ว่าภาพรวมไทยยังสามารถควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าวได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากขณะนี้ความกังวลขยายเป็นวงกว้าง

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขและกรมอนามัยมีนโยบายสื่อสารไปยังหน่วยงานราชการและภาคเอกชนจัดกิจกรรม “Big cleaning Week” ทำความสะอาดสถานที่สำคัญพร้อมกันทั่วประเทศภายใน 2 สัปดาห์นี้เริ่มต้นดีเดย์เมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 เพื่อตัดวงจรแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ สถานที่ราชการ,สถานที่ขนส่งมวลชน ที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก และร้านอาหาร สถานประกอบการ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

สำหรับร้านอาหารที่เน้นให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความกังวลอย่างมากนั้น ขั้นตอนการดูแลในส่วนผู้ประกอบการคืออยากให้ทำความสะอาดทุกครั้ง เช็ดด้วยน้ำยาทำความสะอาด หรือควรใช้เป็นแอลกอฮอล์ 70% ในบริเวณที่มีจุดสัมผัสร่วมกัน และผู้ประกอบการอื่น เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พักต่างๆ ในส่วนประตูทางเข้าก็ควรจัดมีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้กับลูกค้าด้วย

ด้านภาคประชาชนกรมอนามัยยังคงมีมาตรการรณรงค์ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” สวมหน้ากากอนามัย และทำความสะอาดบ้านเรือน สถานที่ทำงาน สถานที่สาธารณะ เครื่องมือเครื่องใช้ จุดที่ประชาชนสัมผัสร่วมกันเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา

แม้ว่าวันนี้จะมีกระแสความกังวลเกี่ยวกับจำนวนหน้ากากอนามัยที่กลายเป็นสินค้าหายาก แต่กรมอนามัยยืนยันว่ามีการผลิตจำนวนเพียงพอกับประชาชน แต่การกระจายไปถึงมือประชาชนอาจยังไม่ทั่วถึง แต่ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

และกรมอนามัยเตรียมออกมาตรการให้ความรู้ประชาชนนำผ้ามาตัดเย็บเป็นหน้ากากอนามัยด้วยตัวเอง โดยเผยแพร่เป็นคลิปวิดีโอแนะแนวทางปฎิบัติอย่างถูกวิธี และการเลือกใช้ผ้าที่ปลอดภัยป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาได้

ส่วนกรณีหน้ากากอนามัยเป็นที่เป็นกระดาษ ที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ไม่คงทนต่อการนำมาใช้ซ้ำหลายๆครั้ง จึงอยากแนะนำให้ประชาชนหันมาใช้หน้ากากอนามัยเป็นแบบผ้าจะดีกว่า

“ถ้าถามว่าหน้ากากที่ทำจากผ้ามั่นใจได้แค่ไหน ผมยืนยันว่ามีความปลอดภัย เพราะการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นลักษณะเสมหะ ไม่เหมือนกับฝุ่นต้องใช้ N95 ในสถานการณ์ประชาชนยังหาหน้ากากป้องการการติดเชื้อไม่ได้ การใช้ผ้าก็มีความปลอดภัยเหมือนกัน โดยลักษณะของผ้าควรมีความสะอาด ผ่านอากาศได้ดี มีช่องเล็กพอสมควร ทางกรมอนามัยเตรียมเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชน และทุกกรมภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขก็จะมาช่วยกันผลิต และส่วนหนึ่งก็จะร่วมกับ อสม.เพื่อกระจายไปยังพื้นที่ชุมชนต่างๆทั่วประเทศ” นพ.บัญชา กล่าว

ส่วนแนวทางปฎิบัติการทำความสะอาดบ้านพักอาศัยที่อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว ถ้าในกรณีคนในครอบครัวไม่มีผู้เข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรนา ก็ให้ทำความสะอาดตามปกติ โดยใช้ผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวทั่วไป หรือใช้เป็นน้ำประปาตามปกติก็เพียงพอแล้ว เพราะวันนี้ไม่ใช่มีแค่เพียงไวรัสโคโรนา แต่ยังมีฝุ่นที่อาจจะกระทบกับสุขภาพของคนในครอบครัว

แต่ถ้ากรณีคนในครอบครัวเกิดเข้าข่ายติดเชื้อไวรัสโคโรนา จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่แบบสมบูรณ์ในบ้านพักอาศัย หรืออาจต้องให้เจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุขจากกรมควบคุมโรคเข้ามาช่วยดูแลอีกทางหนึ่งด้วย

“ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก ไม่จำเป็นต้อง Big cleaning ทุกวัน แนะติดตามสถานการณ์จากการประกาศของหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก วันนี้ยังไม่ได้ยกระดับมาตรการป้องกันเพิ่มเติม แต่ถ้าบ้านพักอาศัยใดไม่มีผู้ป่วยก็ให้ความความสะอาดตามปกติ แต่ถ้าพบว่ามีผู้ป่วยก็ให้ยกระดับทำความสะอาดแบบสมบูรณ์ หรืออาจต้องอาศัยเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคเข้ามาช่วยดูแล” นายแพทย์บัญชา กล่าว

นายแพทย์บัญชา ทิ้งท้ายว่า การป้องกันตัวจากเชื้อไวรัสโคโรนาประชาชนควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่ที่แออัด ไม่ควรใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง แต่หากเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยต้องลดการเดินทางไปในที่ที่มีผู้คนหนาแน่นหรือถ้าจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นและต้องใส่ให้ถูกวิธี

รวมทั้งเมื่อมีอาการไอหรือจาม ให้ใช้หน้ากากป้องกันโรคหรือกระดาษทิชชูหรือต้นแขนด้านใน ปิดปากและจมูก ทิ้งหน้ากากหรือกระดาษทิชชู ลงในถังขยะที่มีฝาปิด

ทั้งนี้ ประชาชนที่มีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสามารถติดตามข้อมูลได้จากเว็บไซต์กรมควบคุมโรคและคลิกเข้าไปที่ “อู่ฮั่น” https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรคโทร. “1422”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.พ. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top