THAI ชูแผนร่วมใจเสียสละ มุ่งรักษากระแสเงินสด

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพนักงานมีความร่วมมือร่วมใจ กันเป็นอย่างดี หาช่องทางเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ด้านต่าง ๆ โดยในส่วนของการลดรายจ่าย พนักงานการบินไทยยรวม 1.7 -1.8 หมื่นคน หรือประมาณ 80% ของพนักงานทั้งหมดกว่า 1.9 หมื่นคน ร่วมลดเงินเดือน บางส่วนลดเงินเดือนถึง 40-70% บางส่วนก็ร่วมหยุดงานโดยไม่รับเงินเดือน ซึ่งก็จะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดได้ตั้งแต่ช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค. 63 นี้

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าจากภาวะการบินระหว่างประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนักจากปัญหาโควิด-19 แม้จะหารายได้จากส่วนอื่นเข้ามาได้บ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้น เพื่อรักษากระแสเงินสดให้ได้ถึงเดือน เม.ย.64 ทางบริษัทก็เตรียมออกโครงการร่วมใจเสียสละเพื่อการบินไทย ในกลางเดือน ต.ค.นี้ เพื่อให้พนักงานผู้เสียสละ ร่วมใจจากองค์กรก่อนเกษียณ ซึ่งการพูดคุยก่อนหน้านี้ พนักงานบางส่วนก็พร้อมออกแต่ขอให้มีแพ็คเกจที่เหมาะสมบ้าง โครงการนี้จะออกมาในรูปแบบใด ก็ขอให้รอฟังประกาศ ซึ่งอาจจะเป็นการแบ่งจ่าย หรือผ่อนระยะยาว คาดว่าพนักงานผู้เสียสละมีความเข้าใจ ฐานะขององค์กรที่อยู่ในภาวะเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ

ในวันนี้ (9 ต.ค.) การบินไทยได้จัดการประชุมพนักงานบริษัท (Staff Meeting) ที่สำนักงานใหญ่ เพื่อชี้แจงถึงกระบวนการเข้าฟื้นฟูกิจการภายใต้กฎหมายล้มละลาย รวมทั้งฝ่ายบริหารจะให้ข้อมูลแก่พนักงาน ทั้งกระบวนการฟื้นฟูกิจการ กระบวนการเจรจากับเจ้าหนี้ การหารายได้ในระหว่างหยุดทำการบิน ได้แก่ เที่ยวบินพิเศษ การให้บริการสายการบินลูกค้า การขายแฟรนไชส์ ปาท่องโก๋ การบุกตลาดรองสายการบินไทยสมายล์ และความคืบหน้าโครงการร่วมใจเสียสละเพื่อการบินไทย ส่วนที่มีการแต่งตั้งระดับผู้บริหารในการบินไทยล่าสุดนั้น ก็เป็นไปตามความเหมาะสม

พนง.แต่งดำค้านดีดีอุ้มไทยสมายล์

ขณะเดียวกัน สหภาพแรงงานการบินไทย เชิญชวนพนักงานการบินไทยแต่งชุดดำเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยแหล่งข่าวจากสหภาพฯ กล่าวว่า การแต่งดำวันนี้เพื่อทวงถามกับนายชาญศิลป์ จากกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร ทั้งที่บริษัทยังอยู่ระหว่างจัดทำแผนฟื้นฟู รู้อยู่แล้วว่า องค์กรต้องปรับลดขนาด (downside) แต่ทำไมต้องมีการแต่งตั้งผู้บริหาร และหนีไม่พ้นพนักงานระดับล่างได้รับผลกระทบ

รวมทั้งพนักงานกว่า 90% ไม่พอใจที่ยังคงสายการบินไทยสมายล์ ที่เห็นว่าเป็นภาระต่อการบินไทย ซึ่งเป็นบริษัทแม่รับรู้ผลขาดทุนมาตลอด ซึ่งนายชาญศิลป์ ในฐานะรักษาการดีดีจะมีแผนฟื้นฟูอย่างไร ต้องการให้ชี้แจงให้ชัดเจน

ทั้งนี้ นายนพพล วงษ์กระจ่าง ประธานสหภาพแรงงานการบินไทย (สร.กบท.) ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 ขอแสดงจุดยืนในนโยบาย และมติที่ประชุม สร.กบท. ในการสนับสนุนแผนฟื้นฟูผ่านศาลล้มละลาย และจะคัดค้านการกระทำที่เป็นการขัดต่อการดำเนินการตามแผนฟื้นฟู ที่จะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร กระทบต่อความเชื่อมั่นของสาธารณะและพนักงานการบินไทย รวมทั้งการกระทำใด ๆ อันส่งผลต่อความไว้วางใจของเจ้าหนี้

สหภาพฯจึงขอเชิญชวนพนักงานที่มีหัวใจรักความถูกต้องเป็นธรรม พร้อมร่วมมือสนับสนุนการพื้นฟูบริษัทฯ ในแนวทางที่ถูกต้อง แต่งกายด้วยชุดดำเข้าร่วมประชุม Staff meetting ในวันศุกร์ที่ 9 ต.ค.63 โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อซักถามรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ในทุกประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาสังคม ทั้งภายในและภายนอกในขณะนี้

“ในวันนี้ การบินไทยเข้าสู่แผนฟื้นฟูแต่มารับภาระทุกอย่างควรหาทางออกเรื่องไทยสมายล์ เพราะการฟื้นฟูการบินไทยเป็นหลัก หากเป็นไปได้การบินไทยกลับมาบินในประเทศเอง เพราะผู้โดยสารก็เชื่อมั่นการบินไทย” นายนพพล กล่าว

ขณะที่เรื่องการแต่งตั้งระดับผู้บริหารล่าสุด ทำให้พนักงานที่เซ็นลดเงินเดือน และเรื่องขอความร่วมมือเออร์ลี่ รีไทร์ เริ่มไม่ยอมกันแล้ว เรียกร้องให้พนักงานเสียสละ ให้เราลดเงินเดือน แต่ก็ยังมีการแต่งตั้งผู้บริหาร

อนึ่ง นายชาญศิลป์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง นางพงศ์อุมา ดิษยะศริน ผู้จัดการกองบริหารทรัพยากรและสนับสนุนปฏิบัติการด้านความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน ซึ่งเป็นภรรยาของ พลอากาศเอกชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ประธานกรรมการ การบินไทย ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมองค์กรเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ต.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top