ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 834.57 จุด ขานรับวัคซีนต้านโควิดคืบหน้า

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุดเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) หลังจากไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทยารายใหญ่สุดของสหรัฐ และ BioNTech บริษัทยาของเยอรมนี แถลงความคืบหน้าครั้งใหญ่ในการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องทำงานที่บ้านในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด หลังมีข่าวความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,157.97 จุด เพิ่มขึ้น 834.57 จุด หรือ +2.95%
  • ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,550.50 จุด เพิ่มขึ้น 41.06 จุด หรือ +1.17%
  • ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,713.78 จุด ลดลง 181.45 จุด หรือ -1.53%

ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติพุ่งขึ้นเป็นเปอร์เซนต์ในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 เดือน หลังจากไฟเซอร์ และ BioNTech แถลงเมื่อวานนี้ว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งไฟเซอร์และ BioNTech พัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ซึ่งผลการพัฒนาวัคซีนดังกล่าวถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ

ทั้งนี้ ไฟเซอร์จะยื่นจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1.3 พันล้านโดสในปีหน้า

หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 7.69% หุ้น BioNTech ทะยานขึ้น 13.91% ขานรับข่าวดังกล่าว ขณะที่หุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเวชภัณฑ์พุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน พุ่งขึ้น 2.68% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค เพิ่มขึ้น 0.17%

หุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มเรือสำราญ และกลุ่มธุรกิจโรงภาพยนตร์ พุ่งขึ้นขานรับความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19 เช่นกัน โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 19.15% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 15.18% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 17.03% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ ทะยานขึ้น 28.79% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 39.29% หุ้นเอเอ็มซี เอนเตอร์เทนเมนท์ โฮลดิ้งส์ และหุ้นซีเนมาร์ค โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นสองเครือข่ายโรงภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 51.41% และ 45.17% ตามลำดับ

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตโควิด-19 โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 14.19% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 13.52% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 6.79% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 11.49% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 10.54%

นอกจากนี้ การที่นายโจ ไบเดน ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยังทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนายไบเดนให้คำมั่นว่าเขาจะทำให้การถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่น และจะผลักดันมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการสำคัญอื่นๆ

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องทำงานที่บ้านในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด หลังมีข่าวความคืบหน้าของวัคซีนต้านโควิด-19 โดยหุ้น Zoom Video Communications ร่วงลง 17.37% หุ้นเฟซบุ๊ก ดิ่งลง 4.99% หุ้นแอมะซอนดอทคอม ร่วงลง 5.06% หุ้นแอปเปิล ลบ 2% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.38% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 8.59%

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ย. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top