น.ส.ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า จากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบให้ระบบเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นในช่วงต้นปี 2564 กบข. เตรียมจะจัดทำกรอบการลงทุนในระยะยาว 5-10 ปี ซึ่งเป็นการปรับกรอบการลงทุนครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมี ทั้งนี้ เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด
โดยกรอบการลงทุนใหม่นี้ จะไม่เน้นเรื่องผลตอบแทนแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะวัดผลความสำเร็จจากการลงทุนด้านสังคมควบคู่ไปกับผลตอบแทนต่อสมาชิก ซึ่งจะเน้นลงทุนในธุรกิจที่ส่งผลดีต่อสังคมด้วย
เลขาธิการ กบข.กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 กบข.ได้ปรับลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นลงเหลือ 10% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมด และเพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้เป็น 70% ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ เริ่มกลับมาดีขึ้น จึงทำให้ กบข.ปรับเพิ่มการลงทุนในหุ้นมาอยู่ที่ 15.6% และปรับลดลงทุนในตราสารหนี้เหลือ 65% แต่หลังจากนี้ไป การลงทุนต่างๆ จะต้องอยู่ในกรอบการลงทุนระยะยาวที่ได้ทำการวิเคราะห์ไว้ด้วย เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพสูงสุด
เลขาธิการ กบข.กล่าวถึงผลตอบแทนจากการลงทุนของกบข.ในปี 63 ว่า ยังคงเป็นบวกได้ แม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยมีการปรับพอร์ตการลงทุนด้วยการเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้น เช่น ทองคำ และทองแดง รวมไปถึงยังเลือกลงทุนในหุ้นที่มีความเหมาะสม หรือลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือหุ้นที่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค
อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่าในปีหน้า กบข.จะสามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่เป็นบวกได้ต่อเนื่องจากปีนี้ และยังคงให้ความสำคัญในการลงทุนในหุ้นอยู่ แต่จะเน้นไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน และอาเซียน ที่ยังให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดี ขณะเดียวกันจะตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลเรื่องการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อให้การลงทุนในต่างประเทศได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 63)
Tags: กบข., กองทุน, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, ศรีกัญญา ยาทิพย์