สศก.คาดปี 64 ผลผลิตทุเรียน-มังคุด-เงาะ-ลองกองภาคตะวันออก กว่า 1.06 ล้านตัน

นางติณณา คัญใหญ่ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออก 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จันทบุรี ระยอง และตราด ในปี 64 จะมีปริมาณรวมประมาณ 1,066,330 ตัน เพิ่มขึ้น 40,829 ตัน หรือ 7.11% จากปี 2563 ที่มีจำนวน 995,501 ตัน โดยผลผลิตจะออกมากในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องถึงต้นเดือนมิถุนายน 2564

โดยทุเรียนจะเพิ่มขึ้นมากที่สุด 11.42% เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ราคาทุเรียนดีต่อเนื่องมา 6-7 ปี จูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาต้นทุเรียนดี รวมทั้งทุเรียนที่ปลูกใหม่ในปี 2559 เริ่มให้ผลเป็นปีแรก รองลงมาได้แก่ มังคุด เพิ่มขึ้น 4.05% และลองกอง เพิ่มขึ้น 0.52% ส่วนเงาะลดลง 0.34% เนื่องจากเกษตรกรโค่นต้นเงาะที่ให้ผลผลิตแล้วทิ้ง เพราะราคาที่ลดลงไม่จูงใจ ปัญหาแรงงานในการเก็บเกี่ยวเงาะที่หายาก และค่าแรงงานเก็บเกี่ยวสูง

“ผลผลิตต่อไร่ทั้ง 4 ชนิดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ปริมาณน้ำจะมีเพียงพอเลี้ยงต้น ผลผลิตได้อายุการเก็บเกี่ยว และอายุต้นที่ให้ผลผลิตได้มาก ประกอบกับราคาจูงใจ โดยเฉพาะทุเรียนทำให้เกษตรกรเอาใจใส่ดูแลรักษามากขึ้น”

นางติณณา กล่าว

ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการวางแผนบริหารจัดการผลไม้ตั้งแต่ต้นฤดู ซึ่งผลพยากรณ์ปี 2564 ครั้งที่ 1 (ข้อมูล ณ 27 พ.ย.63) มีเนื้อที่ยืนต้นของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด จำนวน 743,352 ไร่ เพิ่มขึ้น 27,406 ไร่ หรือ 3.83% จากปี 2563 ที่มีจำนวน 715,946 ไร่ โดยเนื้อที่ยืนต้นทุเรียนเพิ่มขึ้นประมาณ 9.82% ส่วนลองกอง ลดลง 11.06% เงาะ ลดลง 2.96% และมังคุด ลดลง 0.24% เนื่องจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนมาปลูกทุเรียนทดแทนมากขึ้น

เนื้อที่ให้ผลทั้ง 4 ชนิดมีจำนวน 640,151 ไร่ เพิ่มขึ้น 6,510 ไร่ หรือ 1.03% จากปี 2563 ที่มีจำนวน 633,641 ไร่ โดยทุเรียน เพิ่มขึ้น 5.59% ส่วนลองกอง ลดลง 10.62% เงาะ ลดลง 3.88% และมังคุด ลดลง 0.55% เนื่องจากเกษตรกรตัดโค่นออกเพื่อปลูกทุเรียนทดแทน และในสวนผสมเกษตรกรจะสางต้นผลไม้ทั้ง 3 ชนิดออกเพื่อปลูกทุเรียนแซม และสางออกเพื่อให้ต้นทุเรียนมีทรงพุ่มรับแสงแดดสามารถสังเคราะห์แสงได้เต็มที่

นางติณณา กล่าวว่า ขณะนี้ทุเรียนออกดอกแล้วประมาณ 33.46% ผลผลิตที่ติดในช่วงแรกเป็นทุเรียนพันธุ์เบาและทุเรียนที่ใช้สารกระตุ้นการออกดอก โดยจะเป็นพันธุ์กระดุมและหมอนทอง ซึ่งบางส่วนจะทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นไป ส่วนผลผลิตจะออกมากช่วงกลางเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2564 ขณะที่เงาะออกดอกแล้วเล็กน้อยประมาณ 0.60% ส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะเตรียมใบและเริ่มตั้งช่อดอก สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตรอบแรกได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 โดยผลผลิตจะออกมากในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องถึงต้นเดือนมิถุนายน 2564 แต่มังคุดยังไม่ออกดอกแต่มีระยะเริ่มเป็นปากนกแก้วบ้างแล้ว โดยมังคุดส่วนใหญ่ยังอยู่ในระยะเตรียมใบ เกษตรกรเริ่มบังคับต้น ใบที่สมบูรณ์โดยหยุดการให้น้ำเพื่อให้ต้นมังคุดขาดน้ำจะช่วยเร่งกระตุ้นการออกดอกได้ในช่วงเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตรุ่นแรกได้ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นเดือนสิงหาคม 2564 โดยผลผลิตจะออกกระจุกตัวสูงสุดในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2564 ส่วนลองกองขณะนี้ยังคาดการณ์การออกดอกไม่ชัดเจน เนื่องจากฝนยังตกอย่างสม่ำเสมอในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนที่ผ่านมา ต้นลองกองยังไม่ขาดน้ำ ทำให้ต้น ใบยังไม่สลด ลองกองสามารถออกดอกได้ตลอดหากต้นสมบูรณ์และขาดน้ำ แต่คาดจะเริ่มมองเห็นการติดดอกที่ชัดเจนขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2564 โดยจะสามารถเก็บเกี่ยวลองกองรุ่นแรกได้ในเดือนเมษายน และจะสิ้นสุดการเก็บเกียวในเดือนตุลาคม 2564 โดยจะออกกระจุกมากในช่วงปลายมิถุนายน ต่อเนื่องถึงต้นกรกฏาคม 2564

สำหรับแนวทางการบริหารจัดการผลไม้ของคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ได้กำหนดแนวทางระยะปานกลางไว้ 3 ปี (2564-2566) คือ การบริหารจัดการเชิงคุณภาพ เน้นจัดทำแผนบริหารจัดการผลไม้ในพื้นที่ การบริหารจัดการเชิงปริมาณ ปรับสมดุลข้อมูลของอุปสงค์และอุปทาน โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกมาก ซึ่งมุ่งหวังให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรม รวมทั้งเน้นแผนบริหารจัดการเชิงรุกตามนโยบายเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด โดยมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักด้านการผลิตให้ได้คุณภาพมาตรฐาน GAP ส่วนกระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบด้านการตลาด การกระจายผลผลิตออกนอกพื้นที่ให้มีความคล่องตัว การผลักดันการส่งออก การเปิดตลาดต่างประเทศ ส่งเสริมการจำหน่ายผลผลิตผ่านช่องทางสมัยใหม่ โดยเน้นการตลาดออนไลน์

อย่างไรก็ตาม สศท.6 จะติดตามรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิดครั้งที่ 2 ช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 และมีกำหนดลงพื้นที่ติดตามสำรวจข้อมูลสถานการณ์การออกดอก ติดผล และเก็บเกี่ยวผลผลิตจริงกับเกษตรกรผู้ปลูกไม้ผลทั้ง 4 ชนิดนี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เพื่อใช้ข้อมูลวางแผนบริหารจัดการผลไม้ร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาคตะวันออกต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top