‘อนุทิน’ ยันผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงต้องกักตัว 14 วันตามแผนป้องกันโควิด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า การดูแลสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทยนั้น แม้ไทยจะยังไม่ห้ามผู้ที่เดินทางจากประเทศเสี่ยงเข้ามาภายในประเทศไทยก็ตาม แต่บุคคลเหล่านั้นจะต้องกักตัวเองอยู่ภายในบริเวณที่พักอาศัยเป็นเวลา 14 วันเพื่อรอดูอาการก่อน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข

ซึ่งหากระหว่างนี้ผู้เดินทางเหล่านั้นต้องการที่จะเคลื่อนย้ายหรือเดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจในพื้นที่อื่น ก็เป็นหน้าที่ของทางโรงแรมที่จะต้องประสานติดต่อกับเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคเพื่อขออนุญาตต่อไป

“นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาประเทศไทยจะต้องกักตัว 14 วันก่อน ถ้ายังจะมาก็มา แต่ว่าต้องโดนกักตัว 14 วันก่อน ที่เขาจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ เขาจะต้องแสดงใบจองโรงแรม สมมติคุณจะมาเที่ยวประเทศไทย 7 วัน แต่คุณต้องโดน 14 วันเท่ากับคุณต้องเสียค่าโรงแรม 21 วัน ถ้าคุณอยากทำอย่างนั้นก็ทำ ไม่มีปัญหา เราก็ให้เขาไปกักกันโรคที่โรงแรม แจ้งที่โรงแรมว่านี่คือบุคคลที่อยู่ในข่ายที่ต้องกักกัน เรารู้เบอร์โรงแรม เราติดต่อที่โรงแรม โรงแรมก็ต้องกักกัน ห้ามออกไปไหน”

“ถ้าจะออกไปไหนต้องได้รับอนุญาตโดยเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ซึ่งก็พยายามทำทุกอย่างที่จะทำให้ทุกคนเกิดความมั่นใจได้ ต้องขออนุญาต ออกไปได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเขา ไม่ใช่อยากจะเดินไปไหนมาไหนได้ตามปกติ ไม่ได้ขอความร่วมมือแต่อยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว ต้องแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่คนเหล่านี้ไปเกี่ยวข้องด้วยว่าเขาจะต้องปฏิบัติอย่างไร”

นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า สำหรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้นั้น รัฐบาลได้สั่งการให้กักกันตัวกลุ่มแรงงานดังกล่าว โดยผู้ที่มาจากเมืองแทกู และคยองซังต้องอยู่ในสถานที่กักกันโรคที่รัฐจัดให้ ขณะที่มาจากเมืองอื่น ๆ ของเกาหลีใต้จะส่งไปควบคุมในพื้นที่ตามภูมิลำเนาของบุคคลนั้นๆ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้จัดเตรียมสถานที่

ด้านพล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมยืนยันไม่ใช้พื้นที่ทหาร อาคารรับรอง หาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี รวมทั้ง อาคารรับรอง บ่อฝ้าย และ สวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สนับสนุนงานกระทรวงสาธารณสุข เป็นพื้นที่ควบคุมโรค เนื่องจากประสานกับกระทรวงสาธารณสุข และส่วนราชการในพื้นที่แล้วไม่เหมาะสม

โดยจะใช้พื้นที่ทหารเรือ อาคารรับรองเดิม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี สนับสนุนเป็นพื้นที่ควบคุมโรคกลุ่มแรงงานไทยในพื้นที่เสี่ยงที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุข

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การแพร่ระบาดเกินระดับการควบคุมกระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพ พร้อมจะสนับสนุนพื้นที่ควบคุมอื่น ๆ โดยจะพิจารณาความเหมาะสมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขต่อไป สำหรับการทำงานของโรงพยาบาลทหารในพื้นที่ต่าง ๆ ของภูมิภาค ได้จัดเตรียมความพร้อมสนับสนุนเป็นโรงพยาบาลเฉพาะโรค เมื่อเกินขีดความสามารถในการสอบสวนโรคของกระทรวงสาธารณสุข

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 63)

Tags: , , , , ,
Back to Top