“กอบศักดิ์”เผยเตรียมปรับหลักเกณฑ์ปลดล็อคเปิดทาง บจ.ซื้อหุ้นคืนได้สะดวกขึ้น

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญผลกระทบของตลาดทุนหลังนักลงทุนเกิดความตื่นตนกแห่ขายหุ้นออกมารุนแรง ล่าสุดเตรียมออกมาตรการเข้ามาช่วยประคับประคองตลาดฯ ภายหลังจากหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกรมธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ เตรียมแก้ไขกฎกระทรวงฯเพื่อปลดล็อกให้บริษัทจดทะเบียนสามารถซื้อหุ้นคืนได้

เนื่องจากที่ผ่านมามีบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่หลายรายมีความประสงค์ซื้อหุ้นบริษัทตัวเองคืน เพราะเห็นว่ามูลค่าหุ้นบริษัทที่ตัวเองบริหารอยู่นั้นเริ่มมีความน่าสนใจ แต่ติดเงื่อนไขไม่สามารถดำเนินการซื้อหุ้นคืนได้ เพราะตามเงื่อนไขเดิมเมื่อบริษัทซื้อหุ้นคืนเมื่อปีก่อนไปแล้ว ทำให้ในปีนี้บริษัทติดเงื่อนไขไม่สามารถซื้อหุ้นคืนรอบใหม่ได้ แม้ว่าราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปมากก็ตาม

ทั้งนี้ คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) จะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอาจแถลงข่าวร่วมกับ ก.ล.ต.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยว่า กลไกลที่จะช่วยให้ภาวะตลาดหุ้นไทยไม่ปรับตัวลดลงรุนแรงจากความตื่นตนกของนักลงทุนก็คือการปลดล็อกให้บริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นคืน โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ.) บริษัทจดทะเบียนไทยซื้อหุ้นคืนไปแล้วมีมูลค่า 70,979 ล้านบาท แต่จากการหารือกับบริษัทขนาดใหญ่หลายรายมีความต้องการซื้อหุ้นคืนในช่วงนี้เพราะเข้าใจแนวโน้มธุรกิจในอนาคต ไม่ได้ตื่นตระหนกตามบรรยากาศภาวะแรงขายนักลงทุน แต่ไม่สามารถซื้อหุ้นคืนได้เพราะได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา

“ตอนนี้คุยกับบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไทยหลายรายมีวิสัยทัศน์อยากซื้อหุ้นคืน แต่ติดเงื่อนไขของกฎกระทรวงฯที่ไม่ให้ซื้อหุ้นคืนซ้ำ 2 ปี แต่ก็กำลังแก้ไขกฎกระทรวงพาณิชย์เพื่อปลดล็อกตรงนี้ น่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาประคองตลาดฯได้ในภาวะที่ทุกคนตื่นตนก”

นางสาวรื่นวดี กล่าว

เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทจดทะเบียนหากรายใดไม่สามารถจัดประชุมได้ตามเงื่อนไขภายใน 4 เดือนเพราะติดขัดปัญหา ก็สามารถผ่อนผันกับกรมธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงการประชุมทางไกลเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎกระทรวงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่ได้ประกาศใช้ไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 63)

Tags: , , , , , ,
Back to Top