หุ้นไทยปิดเช้าบวก 0.92 จุด รีบาวด์จำกัดปัจจัยในประเทศกดดัน

จับตาประเด็นล็อกดาวน์กรุงเทพ

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,586.64 จุด เพิ่มขึ้น 0.92 จุด (+0.06%) มูลค่าการซื้อขายราว 34,286 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดปรับขึ้นได้ดี ต่อมาก็ลดช่วงบวกลง ทั้งที่ปัจจัยนอกประเทศดีหลังทำเนียบขาวบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ออกมาดีด้วย ส่งผลให้ตลาดเอเชียต่างแกว่งบวกกัน แต่บ้านเราเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศทำให้ดัชนีฯขึ้นได้จำกัด โดยให้จับตาการประชุมศบค.วันนี้ จะมีการล็อกดาวน์พื้นที่กรุงเทพฯหรือไม่ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสูง และจำนวนเตียง-อุปกรณ์อื่น ๆ มีการใช้บริการค่อนข้างเต็มขีดจำกัดแล้ว นักลงทุนจึงลดความเสี่ยงบ้างจากความไม่แน่นอนดังกล่าว บ่ายนี้ตลาดฯคงจะผันผวนในกรอบแนวรับ 1,570 แนวต้าน 1,600 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,586.64 จุด เพิ่มขึ้น 0.92 จุด (+0.06%) มูลค่าการซื้อขายราว 34,286 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,596.16 จุด และระดับต่ำสุด 1,585.50 จุด

นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาปรับตัวขึ้นได้ดี แต่ต่อมาก็ลดช่วงบวกลง ทั้งที่ปัจจัยจากนอกประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หลังจากทำเนียบขาวบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ออกมาดีด้วย ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ต่างก็ออกมาดี ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน

แต่ทั้งนี้ตลาดบ้านเราปัจจัยในประเทศกดดันทำให้ดัชนีฯปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด ซึ่งให้จับตาการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) วันนี้ จะมีการล็อกดาวน์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือไม่ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในระดับสูง และจำนวนเตียงที่จะรองรับผู้ป่วย รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ก็มีการใช้บริการที่ค่อนข้างจะเต็มขีดจำกัดแล้ว นักลงทุนจึงลดความเสี่ยงบ้างจากปัจจัยความไม่แน่นอนดังกล่าว

นอกจากนี้ วันนี้ให้ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯ และในช่วงต้นเดือนหน้า (ก.ค.) ให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก ซึ่งอาจจะทำให้ราคาน้ำมันมีความผันผวนได้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวนในกรอบแนวรับ 1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,805.03 ล้านบาท ปิดที่ 16.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,294.28 ล้านบาท ปิดที่ 23.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,240.13 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

RCL มูลค่าการซื้อขาย 1,157.54 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 1,012.14 ล้านบาท ปิดที่ 4.84 บาท ลดลง 0.02 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top