ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 4,786 ราย ตาย 53

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (12.30 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 259,301 คน (+4,786)
    • เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ = 3,303 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในชุมชน = 1,347 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง = 127 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 9 ราย
  • รักษาหายแล้ว 207,479 คน (+2,415)
  • รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 49,799 คน (+2,318)
  • เสียชีวิตสะสม 2,023 คน (+53)

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,786 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 3,303 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,347 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 127 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย โดยยังคงพบการเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ โดยมาจากเมียนมา 2 ราย และกัมพูชา 7 ราย
  • มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 53 ราย แยกเป็นเพศชาย 30 ราย เพศหญิง 23 ราย อายุระหว่าง 24-97 ปี ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังมาจาก กทม. 35 ราย, ปทุมธานี สมุทรปราการ จังหวัดละ 3 ราย, นครปฐม ยะลา สงขลา จังหวัดละ 2 ราย, จันทบุรี นครสวรรค์ ปัตตานี อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี ชลบุรี จังหวัดละ 1 ราย โดยยังพบการติดเชื้อในครอบครัว การเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง และมีโรคประจำตัว

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 259,301 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 207,479ราย เพิ่มขึ้น 2,415 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 2,023 ราย

ขณะที่จังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายใหม่ 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร มีจำนวน 1,826 ราย, สมุทรปราการ 433 ราย, สมุทรสาคร 253 ราย, ชลบุรี 208 ราย, นครปฐม 222 ราย, ปทุมธานี 177 ราย, สงขลา 157 ราย, นนทบุรี 155 ราย, ยะลา 106 ราย, ปัตตานี 81 ราย

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. กล่าวว่า ในวันนี้พบกลุ่มผู้ป่วยใหม่ในชุมชนซอยขุนนาวา เขตบางรัก จำนวน 25 ราย จากการตรวจค้น 800 ราย และแคมป์ที่พักคนงาน พระราม 2 ซอย 50 เขตบางขุนเทียน จำนวน 94 คน จากการตรวจค้น 246 คน ซึ่งในกทม.ยังคงมีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังถึง 108 แห่ง

ส่วนในต่างจังหวัดพบคลัสเตอร์ใหม่ ที่สมุทรปราการ ที่โรงงานผ้า อ.เมือง พบผู้ติดเชื้อ 33 ราย และที่โรงงานผลิตภัณฑ์อาหาร อ.บางบ่อ พบผู้ติดเชื้อ 54 ราย และที่สุราษฎร์ธานี ที่แคมป์ก่อสร้าง อ.เมือง พบผู้ติดเชื้อ 19 ราย

นพ.ทวีศิลป์ ชี้แจงกรณีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่ง ศบค.เกี่ยวกับแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดฉบับที่ 26 เพื่อรองรับการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในวันที่ 1 ก.ค.64 ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกเข้ามาประมาณ 249 คน ส่วนใหญ่มาจากอิสราเอล อาบูดาบี และกาต้าร์

ในประกาศฉบับล่าสุดมีการกำหนดมาตการตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้ามา ต้องมีหนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (COE)/ ต้องมีใบรับรองว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ในระยะเวลา 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง / มีกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งรวมถึงกรณีโรคโควิด-19 ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ /ผ่านการตรวจโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PRC / ต้องมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนครบโดสที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทย จะบินตรงไปที่ จ.ภูเก็ต หรืออาจมีการต่อเครื่องได้ โดยขั้นต้นให้รวบรวมที่สุวรรณภูมิ เมื่อรวมคนครบแล้วให้เดินทางไปภูเก็ตต่อโดยไม่ให้มีการไปปะปนกับกลุ่มอื่น เพื่อให้เกิดความมั่นใจในระบบดูแลติดตาม และถ้าต้องการอยู่ในประเทศไทยต่อเกิน 14 วัน จะมีการตรวจเชื้ออีก 2 ครั้ง คือในวันที่ 6-7 และวันที่ 12-13 และหลังวันที่ 14 ไปที่อื่นได้ เช่น เกาะสมุยได้

กรณีของผู้ที่ต้องการเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังพื้นที่ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำเป็นต้องมีเอกสารขออนุญาตในการเดินทางหรือไม่นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ได้ปรึกษากับฝ่ายกฏหมายของ ศบค.ได้รับคำยืนยันว่า ในข้อกำหนดฉบับที่ 25 นั้นผู้ที่อยู่ใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ หากจะเดินทางออกนอกพื้นที่ต้องขอเอกสารจากทางการ ส่วนคนที่จะเข้าไปในพื้นที่ไม่จำเป็นต้องขอเอกสารขออนุญาตเข้าพื้นที่ แต่จำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ทางจังหวัดกำหนดอย่างเข้มงวด เช่น หากมาจากกทม.ก็ต้องมีการกักตัว 14 วัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การติดเชื้อค่อนข้างยาวนานเป็นปี อาจไปนำสู่ความเหนื่อยล้าทางด้านจิตใจ อารมณ์ และสังคม ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ได้ทั่วโลก จึงอยากขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนในการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้เราก้าวผ่านความลำบากช่วงนี้ไปด้วยกัน

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 182,580,354 ราย เสียชีวิต 3,953,846 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 34,527,493 ราย อันดับ 2 อินเดีย 30,361,699 ราย อันดับ 3 บราซิล 18,513,305 ราย อันดับ 4 ฝรั่งเศส 5,772,844 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 5,493,557 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 73

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top