PTTGC ปิดร่วง 6.41% หลังประกาศซื้อกิจการ Allnex ในเยอรมันมองภาพธุรกิจยังไม่ชัด

ราคาหุ้น PTTGC ร่วง 6.41% หรือ 3.75 บาท มาที่ 54.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 6,119.88 ล้านบาท เมื่อเวลา 16.30 น. โดยมีราคาเปิด 58.50 บาท ราคาขึ้นไปสูงสุด 59.00 บาท ราคาต่ำสุด 54.25 บาท โดยราคาอยุ่ในแดนลบทั้งวัน

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (OTTGC) ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Allnex Holding GmbH จาก Allnex Holdings S.a.r.l รวมทั้งสิ้น 100% ที่ราคา 3,575.9 ล้านยูโร หรือเทียบเท่ามูลค่าประมาณ 132,608 ล้านบาท และพร้อมทั้งทำสัญญาเงินกู้จาก Allnex S.a.r.l มูลค่า 426.3 ล้านยูโร หรือเทียบเท่ามูลค่าประมาณ 15,809 ล้านบาท และซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ใน Allnex Holding Germany II GmbH มูลค่า ที่ราคา 1,744 ยูโร หรือเทียบเท่ามูลค่าประมาณ 64,673 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,002.2 ล้านยูโร หรือเทียบเท่ามูลค่าประมาณ 148,417 ล้านบาท

เนื่องจากเป็นการลงทุน Big Project ซึ่งการลงทุนดังกล่าวไม่ได้ Surprise เพราะเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่จะลงทุนในธุรกิจ Coating และยูรีเทน ดังนั้น จึงมีมุมมองเป็นกลาง แต่มูลค่าเงินลงทุนถือว่าใช้เม็ดเงินสูงมาก โดยส่วนหนึ่งเป็นเงินกู้จาก บมจ.ปตท (PTT) กว่า 7 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี หรือจ่ายดอกเบี้ยปีละ 1,800 ล้านบาท ขณะที่ ธุรกิจ Allnex Holding GmbH เฉลี่ยปีละ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับภาระที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับ ปตท.

อย่างไรก็ดี ฐานะการเงินของ PTTGC ไม่น่าห่วง เพราะมีเงินสดในมือ ณ สิ้นไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 1 แสนล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.3 เท่า และบริษัทจะมีเงินที่ได้รับจากการขายหุ้น GPSC จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท และยังมี EBITDA ที่คาดว่าปีนี้จะได้เข้ามาอีก 5 หมื่นล้านบาท โดยไตรมาส 1/64 ได้มาแล้ว 1 หมื่นล้านบาท ก็จะเข้ามาอีก 4 หมื่นล้านบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้ เมื่อรวมกับเงินกู้จาก PTT อัตราส่วน D/E เพิ่มขึ้นมาเป็น 0.6 เท่า ก็เชื่อว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะไม่ได้กระทบกับฐานการเงินของบริษัท

แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนครั้งนี้เป็นธุรกิจใหม่ คือธุรกิจ Coating Resins และ สาร Additives ที่ใช้สำหรับการใช้งานในงานสถาปัตยกรรม อุตสาหกรรมทั่วไป สารเคลือบป้องกัน อุตสาหกรรมรถยนต์ รวมทั้งสารเคลือบผิวและหมึกชนิดพิเศษ ซึ่งธุรกิจค่อนข้างมีความผันผวนสูงขึ้นกับดีมานด์ซีพพลายในตลาด ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ประกอบกับ PTTGC ก็ยังไม่เคยมี Record ธุรกิจดังกล่าว อาจทำให้นักลงทุนยังไม่เห็นทิศทางชัดเจน

“ราคาหุ้นเห็นแล้วตกใจ บางคนก็มองเป็นบวก ส่วนเรามองเป็นกลาง แนวโน้มธุรกิจจะ Growth หรือ Flat ภาพยังไม่ค่อยชัด แต่ไม่ได้มองแย่ โดยเรามองว่าธุรกิจนี้จะเพิ่มมูลค่าอีก 2.50-3.00 บาท”นายเบญจพล กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top