เงินบาทเปิด 32.67 ต่อดอลล์ แนวโน้มอ่อนค่าจากปัจจัยในปท. ตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.62 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าจากปัจจัยภายในประเทศ จากทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการกระจายวัคซีน

“ฝั่งสหรัฐฯ ยังคงนิ่ง ตลาดเป็นโทน wait and see โดยตลาดรอแถลงครบรอบครึ่งปีของนายพาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ ส่วนบ้านเราวันนี้ ลุ้นว่าบาทจะไป test ประมาณ 32.70 เหมือนเดิมหรือไม่ โดยต้องรอดูว่าจะลงเหมือนอาทิตย์ที่แล้ว หรือมีความเป็นไปได้ว่าจะแตะ 32.70 แล้วอาจจะไปต่อยาว”

นักบริหารเงิน กล่าว

ส่วนปัจจัยต่างประเทศวันนี้ ต้องติดตามการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.55 – 32.70 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (12 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.22602% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.25983%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.35/110.36 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.11 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1866/1.1867 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1853 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.612 บาท/ดอลลาร์
  • ครม.เตรียมเคาะใช้เงินกู้ จ่ายเยียวยากลุ่มอาชีพกระทบล็อกดาวน์ 10 จังหวัด ให้กลุ่มสถานเสริมความงาม ร้านนวด สปา พร้อมเพิ่มเงินพิเศษทั้งนายจ้าง-ลูกจ้าง ส่วนนอกระบบจ่ายเงินพร้อมจูงใจเข้าประกันสังคม ธปท.หวั่นจีดีพีโตต่ำกว่าเป้า 1.8% ยืนยัน พร้อมใช้นโยบายผ่อนคลายต่อเนื่อง
  • ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ยืนยันว่าคลังยังมีแหล่งเงินกู้เพียงพอ หากรัฐบาลมีนโยบายออกมาตรการเยียวยาประชาชนเพิ่มเติม โดยปัจจุบัน พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ได้อนุมัติกรอบวงเงินใกล้เต็มแล้วเหลืออยู่อีกเพียงเล็กน้อย และยังมีเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน ฉบับใหม่ 5 แสนล้านบาท ที่สามารถนำมาใช้เยียวยาได้ ส่วนจะมีการกู้เงินออกมาใช้เท่าไรในช่วงนี้ ต้องรอดูนโยบายว่าจะมีแผนใช้เงินเยียวยาเท่าไร รวมถึงจะมีการปรับวงเงินจากโครงการที่ยังไม่ใช้จ่ายจาก พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท มาใช้เยียวยาหรือไม่ ซึ่ง สบน.ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว
  • นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่าภาพรวมของธุรกิจโรงแรมในขณะนี้ กำลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างหนัก ล่าสุดโรงแรมหลายแห่งกว่า 50% ได้ปิดตัวลงไปแล้ว โดยเฉพาะโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยวหลักๆ ที่คาดว่ามีปิดตัวลงมากกว่า 50% เนื่องจากการท่องเที่ยวยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ ส่วนจะปิดตัวชั่วคราวหรือถาวร ตอนนี้ค่อนข้างแยกได้ลำบาก แต่ประเมินว่าโรงแรมที่ปิดถาวรมากที่สุดน่าจะอยู่ภาคใต้เป็นโรงแรมขนาดกลางลงไป เพราะพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติสูงที่สุด และคาดว่าจะมีโรงแรมทยอยปิดตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
  • “ททท.” เผยต่างชาติแห่เที่ยวโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” สะสม 10 วันกว่า 3,917 คน พร้อมเดินหน้าเปิด “สมุยพลัส โมเดล” 15 ก.ค.นี้
  • CryptoCompare ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตเปิดเผยว่า ปริมาณการซื้อขายสกุลเงินคริปโตบนแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ดิ่งลงมากกว่า 40% ในเดือนมิ.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการที่จีนสั่งกวาดล้างการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ครั้งใหญ่
  • หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วนั้นยังคงมีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา แต่วัคซีนช่วยให้คนส่วนใหญ่ไม่ป่วยหนักหรือเสียชีวิต
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยผลสำรวจเมื่อวานนี้ระบุว่า ผู้บริโภคสหรัฐคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า แม้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในระยะนี้เป็นปัจจัยเพียงชั่วคราว
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังมีรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตรียมประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้นก็ตาม
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น
  • นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนายพาวเวลจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 14 ก.ค. และแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 15 ก.ค.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ชนีการผลิตเดือนก.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมิ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นต้นเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top