หุ้นไทยปิดเช้าร่วง 15.50 จุด รับแรงกดดันราคาน้ำมันถอยลง-รัฐฯยกระดับมาตรการคุมโควิด

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,558.87 จุด ลดลง 15.50 จุด (-0.98%) มูลค่าการซื้อขายราว 35,368 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง ตอบรับปัจจัยลบทั้งใน-นอกประเทศ จากราคาน้ำมันที่ถอยหลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ทำให้ Supply เพิ่ม แต่ Demand อาจชะลอลงหลังโควิดกลายพันธุ์กลับมาระบาดในหลายประเทศ ส่วนปัจจัยลบในประเทศมาจากการยกระดับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้ม-จำกัดกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มขึ้น แต่เชื่อยังไม่เพียงพอที่จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศลดลงได้ จึงมองสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ต่างติดลบ กังวลเศรษฐกิจโลกกลับมาชะลอหลังเจอโควิดกลายพันธุ์ระบาดอีกรอบ บ่ายนี้ตลาดฯคงจะแกว่งในแดนลบอยู่ โดยมีแนวรับหลัก 1,550 หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,530 ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,558.87 จุด ลดลง 15.50 จุด (-0.98%) มูลค่าการซื้อขายราว 35,368 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,563.88 จุด และระดับต่ำสุด 1,553.75 จุด

นายวิจิตร อายะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง รับปัจจัยลบทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ โดยต่างประเทศมาจากราคาน้ำมันที่ถอยลงหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวม 2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยให้ทยอยปรับเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนส.ค.ไปจนถึงเดือนธ.ค.64 ทำให้เห็นภาพรวม Supply ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ Demand น่าจะชะลอตัวลงด้วยซ้ำจากการแพร่ระบาดโควิดกลายพันธุ์ที่กลับมาในหลายประเทศ

ส่วนปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องของมาตรการคุมเข้มของภาครัฐฯในการยกระดับการควบคุมมากขึ้น ทั้งการเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 13 จังหวัด และจำกัดกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ยังเชื่อว่ามาตรการที่ออกมายังไม่เพียงพอที่จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศถอยลงได้ ดังนั้นจึงมองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังไม่น่าไว้วางใจ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ติดลบกัน จากความกังวลภาพเศรษฐกิจโลกที่จะกลับมาชะลอตัวหลังจากที่เผชิญการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แบบกลายพันธุ์อีกรอบ

ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ และในช่วงกลางสัปดาห์ให้ติดตามตัวเลขการส่งออกของไทย รวมถึงติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการของทั้งสหรัฐฯ และยุโรปที่จะทยอยออกมา

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งในกรอบแดนลบอยู่ โดยมีแนวรับหลักที่ 1,550 จุด หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,570 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,481.31 ล้านบาท ปิดที่ 80.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
  • RCL มูลค่าการซื้อขาย 1,079.28 ล้านบาท ปิดที่ 54.50 บาท ลดลง 2.25 บาท
  • BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,050.98 ล้านบาท ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 993.05 ล้านบาท ปิดที่ 36.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
  • GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 953.15 ล้านบาท ปิดที่ 4.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top