เพื่อไทย จ่ออภิปรายนายกฯ ปลายส.ค. ล้มเหลวแก้โควิด-บริหารวัคซีนผิดพลาด

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า จากการหารือกันเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการกำหนดเบื้องต้นว่าจะอภิปรายช่วงหลังจากการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 วาระ 2-3 ในวันที่ 18-19 ส.ค.แล้วเสร็จ ดังนั้นจึงได้มีการกำหนดคร่าวๆ ว่าจะยื่นญัตติให้กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งควรจะยื่นก่อนวันที่จะมีการอภิปรายงบประมาณประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้สภาฯ ได้มีเวลาตรวจสอบญัตติ

“เนื่องจากได้กำหนดไว้ว่าต้องมีการตรวจสอบ 7 วันก่อนจะบรรจุ เมื่อบรรจุแล้ว ทางสภาฯ ก็ต้องแจ้งไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้ที่จะถูกอภิปราย และกว่าที่จะมาตอบอีก บางทีก็ใช้เวลาเป็นเดือน หรืออาจ 2-3 สัปดาห์ หากมีการแก้ไข ทางสภาฯ ก็จะให้ผู้ยื่นญัตติกลับมาแก้ไข จึงมีการพูดคุยกันว่าควรจะมีการยื่นประมาณสัปดาห์ที่ 2 ไม่เกินสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคม” นพ.ชลน่านกล่าว

สำหรับผู้ที่จะถูกอภิปรายนั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จะเน้นการอภิปรายไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นหลัก ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นก็ให้ผู้รับผิดชอบไปพิจารณาเนื้อหาเรื่องความเกี่ยวข้อง และจะมากำหนดกันอีกครั้ง รวมทั้งต้องรอฟังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย เนื่องจากมีการประชุมพรรคร่วมไปแล้วว่าให้พรรคร่วมได้แสดงความเห็นว่ามีความประสงค์จะอภิปรายผู้ใด อย่างไร และจะนำมาทำเป็นญัตติรวม

“ขณะนี้ที่ชัดๆ คือตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ และวันนี้ เวลา 14.00 น. จะมีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กัน ส่วนคนอื่นต้องรอมติ เนื่องจากในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องดูเนื้อหาสาระ และความเกี่ยวเนื่องเกี่ยวข้องเป็นหลัก” นพ.ชลน่านกล่าว

สำหรับเนื้อหาที่จะอภิปรายในครั้งนี้ จะเน้นเรื่องความผิดพลาด ความบกพร่อง ความล้มเหลวในการบริหารจัดการแก้ปัญหาโควิด-19 รวมทั้งการบริหารจัดการวัคซีน หลังจากนั้น จะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อด้านเศรษฐกิจ และเรื่องอื่นๆ ที่มีความชัดเจน เช่น มีหลักฐานที่เข้าข่ายการทุจริตต่างๆ รวมแล้วแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ 4 เรื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากสถานการณ์โควิดระบาดหนักในปัจจุบันนี้ ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุขหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “อยู่ที่เนื้อหาสาระ”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top