หุ้นไทยปิดร่วง 15.86 จุด กังวลจะออกมาตรการเข้มสกัดโควิดระบาด/สัปดาห์หน้าแกว่งตัว

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,521.92 จุด ลดลง 15.86 จุด (-1.03%) มูลค่าการซื้อขาย 87,720.54 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงจากความกังวลจะมีมาตรการคุมเข้มสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งอาจทำให้รัฐฯมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หวั่นกระทบต่อเศรษฐกิจ-หนี้สินของประเทศ-ค่าเงิน ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ติดลบ เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ติดลบ ตามปัจจัยเฉพาะตัวแต่ละตลาดไป สัปดาห์หน้าตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,500-1,520 แนวต้าน 1,540 จุด หากมาตรการเข้มที่ออกมาเป็นล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ก็ทำให้ดัชนีฯมีโฮกาสลงต่ำกว่าระดับ 1,500 ได้ แต่คิดว่าไม่น่าจะใช้

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,521.92 จุด ลดลง 15.86 จุด (-1.03%) มูลค่าการซื้อขาย 87,720.54 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,539.03 จุด และระดับต่ำสุด 1,516.77 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 376 หลักทรัพย์ ลดลง 1,417 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 355 หลักทรัพย์

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงจากความกังวลผลประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)ที่จะออกมาจะมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่เข้มขึ้น หลังจากที่การแพร่ะบาดไวรัสโควิดในประเทศไม่ดีขึ้น และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในประเทศทำให้รัฐบาลมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากมาตรการที่เข้ม และยังจะส่งผลกระทบต่อ GDP ไปด้วย

ทั้งนี้ ภาระของภาครัฐฯทำให้หนี้สินประเทศเพิ่มขึ้น และมาตรการยิ่งเข้มก็อาจทำให้รัฐฯกู้เงินเพิ่มได้อีก ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นในเรื่องค่าเงิน ดังนั้นการแพร่ระบาดโควิดไม่ได้มองที่คนติดเชื้อมากอย่างเดียว แต่มองถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ, หนี้สินของประเทศ และค่าเงินด้วย

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ติดลบกัน โดยตลาดหลักอย่างตลาดหุ้นจีน, ฮ่องกง และญี่ปุ่น ติดลบกันหมด จากความกังวลจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยี และฝั่งฮ่องกงก็วิตกจีนจะเข้ามาแทรกแซงด้วย ส่วนญี่ปุ่นก็วิตกการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็ปรับตัวลงจากปัจจัยเฉพาะตัว

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,500-1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540 จุด ซึ่งหากมาตรการเข้มที่ออกมาเป็นล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ก็ทำให้ดัชนีฯมีโอกาสลงต่ำกว่าระดับ 1,500 จุดได้ แต่คิดว่าไม่น่าจะใช้ พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบกาของบริษัทจดทะเบียนต่อไป และติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

DTAC มูลค่าการซื้อขาย 4,192.64 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

TOP มูลค่าการซื้อขาย 3,643.15 ล้านบาท ปิดที่ 44.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,795.32 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 0.75 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,604.47 ล้านบาท ปิดที่ 103.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,233.53 ล้านบาท ปิดที่ 414.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top