ครม.รับทราบความคืบหน้าโครงการอาคารแสดงปท.ไทย งานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการอาคารแสดงประเทศไทยในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ และสถานะด้านงบประมาณ ซึ่งเดิมกำหนดจัดงานในวันที่ 20 ต.ค.63 – 10 เม.ย.64 เลื่อนเป็นวันที่ 1 ต.ค.64 – 31 มี.ค.65 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

โดยมีความคืบหน้าของงานที่สำคัญดังนี้ ในส่วนของการก่อสร้างอาคารแสดงประเทศไทย ได้ปรับแผนงานให้สอดคล้องกับกำหนดจัดงานใหม่และแนวทางที่ประเทศเจ้าภาพกำหนด โดยขยายระยะเวลาโครงการจากเดิม 1,000 วัน เป็น 1,354 วัน รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศเจ้าภาพในการควบคุมโรค ทำให้เกิดค่าใช้จ่าย ณ เมืองดูไบ นอกเหนือจากแผนงานเดิม ได้แก่ ค่าสาธารณูปโภค, ค่าผู้คุมและแรงงานที่ได้รับใบอนุญาต, ค่าดูแลรักษาสภาพอาคาร, ค่าโกดังเก็บวัสดุ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับมาตรการด้านสาธารณสุขและสวัสดิการแรงงาน รวมเป็นเงิน 11,111,850 บาท

สำหรับส่วนของการจัดทำนิทรรศการ แบ่งการนำเสนอออกเป็น 4 ห้อง ได้แก่ 1.จัดแสดงเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จำลอง และราชรถจำลอง 2.ภาพยนตร์มัลติมีเดียที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ไทย และพระอัจฉริยะภาพของพระมหากษัตริย์ไทย 3.ภาพยนตร์มัลติมีเดียเกี่ยวกับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และภาพในอนาคตของประเทศไทย และ 4.ภาพยนตร์สั้นบอกเล่าเสน่ห์ของประเทศไทยผ่านสายตาของชาวต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม ได้ปรับปรุงเนื้อหาภายในห้องนิทรรศการให้มีความทันสมัย และเพิ่มเติมเนื้อหาด้านการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของประเทศไทย เพื่อแสดงศักยภาพสู่สายตานานาชาติ และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการควบคุมโรค อาคารแสดงประเทศไทยจึงจำเป็นต้องลดความจุของผู้เข้าชมอาคารต่อรอบจากเดิม 120-150 คนต่อรอบ เป็นไม่เกิน 70 คนต่อรอบในทุก 4 นาที

ทั้งนี้ มีหน่วยงานพันธมิตรยืนยันเข้าร่วมจัดกิจกรรมพิเศษตามกำหนดการใหม่จำนวน 10 หน่วยงาน เช่น สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กรมส่งเสริมการเกษตร, กระทรวงวัฒนธรรม, กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยมี 3 หน่วยงาน แจ้งว่า มีแผนงานในการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นปี 2565 ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรอบวงเงิน 4 ล้านบาท กระทรวงวัฒนธรรม 4 ล้านบาท และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรอบวงเงิน 4.5 ล้านบาท รวมกรอบวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 12.5 ล้านบาท

ส่วนการประชาสัมพันธ์นั้น จะเน้นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมริเริ่มกรอบความร่วมมือเฉพาะกิจในระดับภูมิภาค เพื่อเพิ่มช่องทางในการจัดกิจกรรมและประชาสัมพันธ์ โดยจัดตั้ง ASEAN Coordination Group เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่เข้าร่วมงานดังกล่าว โดยที่ผ่านมา ประธานของประเทศสมาชิกหรือผู้แทน ได้มีการจัดประชุมทางไกลเพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ส.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top