ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ นักลงทุนจับตาโควิด-สถานการณ์อัฟกานิสถาน

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนลบ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในภูมิภาคยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบในอัฟกานิสถานหลังกลุ่มตาลีบันบุกยึดกรุงคาบูล ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากการปิดทำนิวไฮของดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้

  • ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,002.66 จุด ลดลง 178.80 จุด หรือ -0.68%
  • ส่วนดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,569.84 จุด เพิ่มขึ้น 46.65 จุด หรือ +0.17%

นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในอัฟกานิสถานอย่างใกล้ชิด หลังมีรายงานว่า ชาวอัฟกานิสถานหลายพันคนได้พากันไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล เพื่อคาดหวังที่จะหนีออกนอกประเทศโดยอาศัยเครื่องบินของกองทัพสหรัฐที่ส่งมารับพลเมืองกลับประเทศ หลังจากที่กลุ่มตาลีบันได้บุกยึดทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาบูลได้สำเร็จ

ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า เขายังคงเชื่อมั่นว่าการถอนกองกำลังทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถานเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง แม้ว่าภาพโกลาหลที่เกิดขึ้นในเมืองคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน จะส่งผลให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทั่วโลกก็ตาม ขณะเดียวกันปธน.ไบเดนยอมรับว่า การที่กรุงคาบูลตกไปอยู่ในเงื้อมือของกลุ่มตาลีบันนั้น เกิดขึ้นในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่สหรัฐคาดการณ์ไว้

ปธน.ไบเดนได้ตำหนิว่า การที่กลุ่มตาลีบันสามารถยึดครองอัฟกานิสถานได้นั้น เป็นเพราะบรรดาผู้นำทางการเมืองของอัฟกานิสถานต่างพากันหลบหนีออกนอกประเทศ และกองกำลังของอัฟกานิสถานเองก็ไม่เต็มใจที่จะต่อสู้กับกลุ่มตาลีบัน และย้ำว่า ภารกิจของสหรัฐในอัฟกานิสถานที่มีเป้าหมายปราบปรามผู้ก่อการร้ายในเหตุการณ์ 9/11 และการสร้างความมั่นใจว่ากลุ่มอัลกออิดะห์จะไม่ใช้อัฟกานิสถานเป็นฐานที่มั่นในการโจมตีสหรัฐนั้น ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว

ส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยเช้านี้ สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS) ระบุว่า เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้า 1.77 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. โดยมียอดเกินดุลติดต่อกัน 15 เดือนนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากการส่งออกฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

KCS ระบุว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 29.6% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 5.543 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 38.1% แตะที่ 5.366 หมื่นล้านดอลลาร์

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top