ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกจากแรงช้อนซื้อ จับตาประชุมเฟดที่แจ็กสันโฮลสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากรายงานข่าวที่ว่าจีนเดินหน้าควบคุมธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และความวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้

  • ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,436.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.47 จุด หรือ +0.28%,
  • ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,193.10 จุด เพิ่มขึ้น 179.85 จุด หรือ +0.66% และ
  • ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,169.45 จุด เพิ่มขึ้น 319.73 จุด หรือ +1.29%

ตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงกว่า 20% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากระดับสูงสุดเมื่อกลางเดือนก.พ. หลังรัฐสภาจีนผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Information Protection Law – PIPL) เมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค.) เพื่อกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นกับบริษัทที่เก็บข้อมูลและจัดการข้อมูลของผู้ใช้งาน โดยการผ่านกฎหมาย PIPL ฉบับนี้ อาจส่งผลกระทบต่อแนวทางการดำเนินงานของบริษัทเทคโนโลยีของจีน

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่จีนออกกฎหมาย PIPL เพื่อกำหนดกฎระเบียบในการจัดเก็บข้อมูล การกำหนดกระบวนการ และการป้องกันข้อมูล โดยกฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลบนโลกออนไลน์ และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้

กฎหมาย PIPL กำหนดว่า บริษัทที่ประมวลผลข้อมูลไม่สามารถที่จะปฏิเสธการให้บริการแก่ลูกค้าที่ไม่ยินยอมให้ข้อมูลของพวกเขาถูกจัดเก็บ นอกเสียจากว่า ข้อมูลนั้นจำเป็นต่อการจัดหาผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการ นอกจากนี้ กฎหมายยังกำหนดข้อบังคับที่เข้มงวดเกี่ยวกับการโอนข้อมูลของพลเมืองจีนออกนอกประเทศ โดยหากบริษัทใดละเมิดกฎหมายดังกล่าวจะต้องถูกลงโทษด้วยการปรับ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกยังจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมดังกล่าว

สำหรับหัวข้อในการประชุมประจำปีนี้คือ “Monetary Policy Framework Review” และจะเป็นการประชุมแบบพบหน้ากัน หลังจากเมื่อปีที่แล้ว เฟดต้องจัดการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ส.ค. 64)

Tags: , , ,
Back to Top