CV ปิดเช้า 4.06 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 4.10% พร้อมบิ๊กล็อต 62.15 ล้านหุ้น

หุ้น CV ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 4.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท (+4.10%) จากราคาขาย IPO ที่ 3.90 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 2,980.88 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 3.96 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 4.32 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.94 บาท

นอกจากนี้ ยังมีรายการบิ๊กล็อต CV 3 รายการ จำนวน 62,154,309 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 242.40 ล้านบาท โดยเทรดในราคาเฉลี่ย 3.90 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาขาย IPO

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯมองว่าราคา IPO ของบมจ.โคลเวอร์ เพาเวอร์ (CV) สูงกว่ามูลค่าที่เหมาะสมเล็กน้อยที่ P/E สำหรับปี 2565 ที่ 28 เท่า (เทียบกับกลุ่มบริษัทที่มีลักษณะการดำเนินงาน และขนาดใกล้เคียงกันทั้งใน ) แม้บริษัทจะมีแนวโน้มการเติบโตดีจากแผนการลงทุนทั้งการเข้าซื้อโรงไฟฟ้า และการเข้าร่วมประมูลในปีนี้ แต่หลายโครงการยังต้องรอผลการประมูลที่ชัดเจนอยู่ (หากประมูลได้ยังต้องใช้เวลาก่อสร้างอย่างน้อย 1-2 ปีถึงจะสามารถเริ่มดำเนินการได้) ประกอบกับรายได้ส่วนใหญ่ในขณะนี้ยังอยู่ที่ธุรกิจงาน EPC ซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำ

อย่างไรก็ตาม คาดจะเห็นผลการดำเนินงานของ CV ดีขึ้นอย่างมากในช่วงปี 2566 หลังโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศญี่ปุ่นดำเนินการแล้ว โดยคาดจะทำให้รายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว (เป้าของบริษัทที่ 180 เมกะวัตต์ในปี 2566 เวียนที่สูง 22-25%) และสร้างการเติบโตในระยะยาว

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจโดยเป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานทดแทนแบบครบวงจรทั้งธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ให้บริการด้านวิศวกรรม และดำเนินธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก โดยสามารถแบ่งประเภทผลิตภัณฑ์และบริการได้ตามสัดส่วนรายได้ดังนี้

1) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าโดยเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด ซึ่งขณะนี้มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 4 โครงการ ที่กำลังการผลิตติดตั้งรวม 26.2 เมกะวัตต์ (16.7 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น) และมีสัดส่วนรายได้ในช่วง H1/64 ที่ 37.79%

2) ธุรกิจด้านงานวิศวกรรมโดยเน้นงานให้บริการงานก่อสร้างโรงไฟฟ้ากลุ่มพลังงานจากเชื้อเพลิงชีวมวล ขยะ และชีวภาพ โดยมีสัดส่วนรายได้มากที่สุดในช่วง H1/64 ที่ 57.91%

3) ธุรกิจให้บริการเดินเครื่องและบำรุงรักษา ซึ่งมีสัดส่วนรายได้ช่วง H1/64 ที่ 0.94%

โครงการในอนาคตของบริษัท บริษัทฯ อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงคัดแยกและแปรรูปขยะมูลฝอยเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ RDF กำลังผลิต 150 ตัน/วัน โดยจะช่วยในการส่งเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้า CPX และสามารถจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะสร้างเสร็จในไตรมาส 4 ปี 2564, บริษัทอยู่ระหว่างเข้าซื้อโรงไฟฟ้าแบบพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้ก๊าชธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 7.36 เมกะวัตต์ ซึ่งดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปแล้ว

โดยคาดว่าจะเข้าทำรายการซื้อภายในเดือน กันยายน2564, บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 39.8 เมกะวัตต์ (Oita 1 และ Oita 2) ในโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยคาดจะใช้เงินลงทุนประมาณ 450 ล้านบาท และคาดจะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 1 ปี 2565 และสร้างเสร็จในไตรมาส 3 ของปี 2566

บริษัทฯ ได้เข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล จำนวน 8 โครงการ กำลังผลิตติดตั้งรวมประมาณ 49.2 เมกะวัตต์ โดยบริษัทผ่านคุณสมบัติด้านเทคนิคแล้ว จำนวน 4 โครงการ (CVG2 CVG4 CVG6 และ CVG7) และคาดจะประกาศผู้เข้าร่วมโครงการในไตรมาสที่ 3 ปี 2564

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top