ปชป.เผยคะแนนไว้วางใจนายกฯสะท้อนเอกภาพพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่เห็นสัญญาณปรับครม.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวประเด็นการเมือง ถึงผลคะแนนจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายกรัฐมนตรีว่า คะแนนไม่ไว้วางใจก็เป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัย หากย้อนหลังกลับไปดูจะพบว่าโอกาสที่จะคะแนนเท่ากันเป๊ะ ก็เกือบจะเรียกว่าน้อยมาก ตนอยู่ในวงการเมืองมาพอทราบได้ ซึ่งก็จะมีมากบ้างน้อยบ้าง ทั้งหมดนี้ถือว่าคะแนนยังเกาะกลุ่มกัน ซึ่งถือว่ายังสะท้อนความเป็นเอกภาพในรัฐบาลอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ว่าต่อแรงกระเพื่อมภายในพรรคพลังประชารัฐ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบ เพราะจะเป็นการก้าวล่วงไปยังพรรคร่วมรัฐบาลอื่น โดยเฉพาะพลังประชารัฐ ก็ถือว่าเป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของท่านนายก และเป็นหน้าที่พรรคพลังประชารัฐที่จะต้องไปบริหารจัดการว่าเป็นอย่างไร ประชาธิปัตย์ไม่ขอก้าวล่วง เราก็ขอทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ที่ผ่านมาเราก็ทำหน้าที่ของเราสุดความสามารถ กระทรวงไหนที่เรารับผิดชอบเราก็ดูแลเต็มที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่รัฐมนตรีว่าการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ท่านก็ชี้แจงได้ชัดเจน ครบถ้วนทุกประเด็น และคะแนนไว้วางใจที่ออกมาก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เป็นที่ยอมรับในผลงาน และในทุกประเด็นที่ท่านชี้แจง

ส่วนกรณีที่มี ส.ส. จำนวนหนึ่งโหวตสวนมติว่าจะมีแนวทางกำชับตักเตือนหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนคงไม่ตักเตือนแล้ว แต่ถ้าจะติดตามก็จะเห็นว่าเป็นคนเดิม ท่านเลขาธิการพรรคก็ได้ชี้แจงไปแล้ววานนี้ว่าท่านจะไปดำเนินการอย่างไร ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของท่าน

สำหรับความเห็นต่อสถานการณ์ของรัฐบาลอย่างไรว่าจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ว่าจะอยู่ครบเทอม หรือไม่ครบเทอม แต่อย่างน้อยที่สุด สิ่งหนึ่งที่เราควรถือเป็นหลักกันไว้ก็คือ ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ขึ้นมา สมมติถ้ามันจะเกิดก็ขอให้เป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีทางไปตามระบบ ซึ่งระบบก็มีการกำหนดไว้แล้วในรัฐธรรมนูญว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง มีขั้นตอนกระบวนการอย่างไรบ้าง ถ้าทุกคนยึดหลักอันนี้ ก็คิดว่าการเมืองก็ไปต่อได้ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ใครจะเป็นฝ่ายค้านก็ตาม

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าถึงขณะนี้มีสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยัง สำหรับประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top