สธ.ชี้ยอดผู้ป่วยโควิดผ่านจุดสูงสุดแล้ว เล็งพิจารณาสถานการณ์ทุกครึ่งเดือนหลังคลายล็อก

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า การรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อของประเทศไทยวันนี้ (9 ก.ย.) ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 16,031 ราย เป็นธรรมชาติของระบบเก็บข้อมูลสาธารณสุขที่อาจมีการแกว่งตัวขึ้นในวันเดียว เช่นเดียวกับประเทศสหรัฐฯ ที่มีการทบจำนวนผู้เสียชีวิต ทำให้ผู้เสียชีวิตในทุกๆ วันอาทิตย์จะอยู่ที่ประมาณหลักร้อย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในวันศุกร์จะแกว่งตัวสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณหลักพัน ดังนั้นการดูจำนวนผู้ติดเชื้อ และจำนวนผู้เสียชีวิต รวมถึงแนวโน้มในอนาคตควรดูจากตัวเลขย้อนหลังเฉลี่ย 7 วัน

“จำนวนผู้ติดเชื้อสามารถแกว่งตัวได้ เป็นปกติของระบบการเก็บข้อมูลเช่นเดียวกับสหรัฐฯ และขอให้ประชาชนอย่างเพิ่งกังวลใจกับตัวเลขที่แกว่งขึ้นมาในวันนี้ ทั้งนี้ มองว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศน่าจะผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว” นพ.เฉวตสรร กล่าว

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ลดลง โดยยังคงอยู่ในระดับ 200 ราย/วันนั้น มาจากการเข้ารักษาตัวของผู้ป่วยที่มีระยะเวลาที่แตกต่างกันจากในช่วงก่อนหน้านี้ที่มีการระบาดหนัก อย่างไรก็ดี แนวโน้มการติดเชื้อในประเทศมีมุมมองที่ค่อนข้างดี ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดลงได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่กทม. และปริมณฑลที่มีแนวโน้มลดลง

ส่วนแนวโน้มของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการหนัก หรือปอดอักเสบ ภาพรวมจากวันที่ 2 ก.ย. 64 อยู่ที่ 4,740 ราย มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับวันที่ล่าสุด 8 ก.ย. 64 อยู่ที่ 4,364 ราย ในส่วนของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจก็ลดลงเช่นกัน จากวันที่ 2 ก.ย. 64 อยู่ที่ 1,011 ราย เมื่อเทียบกับวันที่ล่าสุด 8 ก.ย. 64 อยู่ที่ 940 ราย

นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงการค้นหาเชิงรุกลดลงว่า เนื่องจากมีการพิจารณาว่าขณะนี้การแพร่ระบาดลดน้อยลง และผู้สัมผัสเชื้อไม่อยู่ในวงกว้าง จึงมีแหล่งคลัสเตอร์ลดลงตามไปด้วย ทั้งนี้ ได้มีระบบเฝ้าระวังพิเศษในการสุ่มตรวจพื้นที่เสี่ยง เช่น ในกทม. อยู่ระหว่างการเตรียมแผนสุ่มตรวจแรงงานในตลาด เป็นต้น

ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังติดตามแนวโน้มผู้ติดเชื้อ เนื่องจากตัวเลขเหล่านี้จะเป็นข้อพิจารณา หลังจากที่มีการปรับมาตรการให้เปิดกิจกรรม และกิจการต่างๆ ในวันที่ 1 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา จะมีการพิจารณาสถานการณ์ทุก 2 สัปดาห์ โดยหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายอาจมีการเปิดกิจการเพิ่มเติม หรือหากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจก็อาจมีการตรึงมาตราการไว้ต่อ

นพ.เฉวตสรร ได้กล่าวถึงการใช้วัคซีนไฟเซอร์ทั้งหมด 1.5 ล้านโดสว่า ล่าสุดฉีดไปแล้ว 9 แสนโดส ส่วนอีก 6 แสนโดส ยืนยันว่าไม่สูญหายแน่นอน จะมีการจัดสรรให้สำหรับกลุ่มเสี่ยง 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีอาการ 7 โรคเรื้อรัง และสตรีตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) ที่อาศัยในพื้นที่สีแดงเข้ม สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว และต้องได้รับเข็มที่สองในเวลา 3-4 สัปดาห์ถัดมา รวมทั้งมีการจัดสรรบางส่วนให้กับชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น คาดว่ามีการฉีดที่ครอบคลุมเกือบหมดแล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top