ศบค.ชุดใหญ่ เห็นชอบจัดสรรวัคซีนเดือนต.ค. 24 ล้านโดสให้ 5 กลุ่ม, นร. 4.8 ล้านโดส

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบแผนการจัดสรรวัคซีนในเดือนต.ค. 64 ที่จะมีเข้ามา 24 ล้านโดส ดังนี้

1. ประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 16.8 ล้านโดส

2. นักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-18 ปี จำนวน 4.8 ล้านโดส

3. แรงงานในระบบประกันสังคม จำนวน 0.8 ล้านโดส

4. หน่วยงานอื่น ๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ จำนวน 1.1 ล้านโดส

5. ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม และต้องการเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3) จำนวน 0.5 ล้านโดส

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมรับทราบแนวทางการให้บริการวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ในประเทศไทย เริ่มเดือนต.ค.นี้ โดยกลุ่มเป้าหมาย นักเรียน และนักศึกษา ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช/ปวส.) หรือเทียบเท่า โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรก จัดสรรวัคซีนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือหรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช/ปวส.) เทียบเท่า ระยะถัดไป จัดสรรวัคซีนสาหรับระดับชั้นอื่นๆ ที่เหลือ

ส่วนรูปแบบการให้บริการ ให้ฉีดที่สถาบันการศึกษา อาทิ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตารวจแห่งชาติ (ตช.) โรงเรียนสอนศาสนา สถาบันการศึกษาอื่นๆที่มีผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไป กำลังศึกษาอยู่ เช่น โรงเรียนทหาร เป็นต้น

ทั้งนี้ หากนักเรียน และนักศึกษาในสถาบันการศึกษาดังกล่าว มีอายุเกิน 18 ปี ให้รับวัคซีนไฟเซอร์ได้โดยอนุโลม

อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมมีความห่วงกังวลการฉีดวัคซีนเด็กตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป โดยทางทีมวิชาการกังวลว่า จะต้องไม่ปิดบังข่าวในเรื่องของผลที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนในเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งต้องชี้แจงกับผู้ปกครองให้ทราบว่ามีความเสี่ยงและต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อนที่จะฉีดวัคซีนกับเด็ก และต้องได้รับความสมัครใจ และจะให้บริการกับเด็กทุกคน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top