นายกฯ ลงพื้นที่สมุทรปราการ เกาะติดปัญหาน้ำท่วม สั่งเร่งระบายน้ำ ดูแลนิคมฯ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ และปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากจังหวัดสมุทรปราการเกิดฝนตกหนักติดต่อกันประกอบกับน้ำทะเลหนุนบางช่วงทำให้การระบายน้ำค่อนข้างช้า เกิดน้ำท่วมขัง 4 อำเภอในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ คือ อำเภอเมือง อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอบางเสาธง โดยหน่วยงานราชการในจังหวัดพร้อมกองทัพได้เร่งดำเนินการะบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขังแล้ว

ทั้งนี้ ในปี 2564 จังหวัดสมุทรปราการได้ดำเนินการตามแผนงาน/โครงการภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จำนวน 7 โครงการ งบประมาณ 83.5846 ล้านบาท ดำเนินการโดย 2 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมชลประทาน และองค์การจัดการน้ำเสีย เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมมีพื้นที่รับประโยชน์ จำนวน 2,500 ไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ 8,716 ครัวเรือน

นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร จ.สมุทรปราการว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อตรวจระบบการระบายน้ำ ซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 57 โดยก่อนหน้านี้มีปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ซึ่งต้องมีการปรับปรุงทำใหม่ให้ดีขึ้น สำหรับสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ เป็นพื้นที่รับน้ำแห่งใหม่ รับน้ำแทนพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ถูกนำไปก่อสร้างสนามบิน โดยสามารถป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้มากพอสมควร ถือเป็นการบริหารจัดการน้ำของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติอย่างเป็นระบบ เพราะขณะนี้น้ำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ จึงได้เตือนในที่ประชุมให้ระมัดระวังสถานการณ์น้ำที่ต้องพบภาวะโลกร้อน และต้องเตรียมแผนไว้ในระยะยาว ซึ่งการประชุมระหว่างภูมิภาคหลายประเทศต่างให้ความร่วมมือกันวางแผนจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้โลกร้อน

นายกฯ ยืนยันต้องดูแลคนทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของใคร และตนเองจะลงทุกพื้นที่ ในวันข้างหน้าจะมีการปรับแผนงาน การลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากบรรดา ส.ส. ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ โดยคำนึงถึงจังหวัดพื้นที่ใกล้เคียงด้วย ซึ่งรัฐบาลจะต้องดูแลประชาชน พร้อมรับฟังประชาชนในหลายช่องทาง ที่สะท้อนผ่านทางจังหวัด และในสภาผู้แทนราษฎรที่มีการตอบกระทู้ปัญหาประชาชน ขณะเดียวกันรัฐบาลจำเป็นต้องมีโครงการที่เป็นโครงสร้างใหญ่ให้ประชาชน และในพื้นที่ก็บริหารโครงการในพื้นที่ต่อไป ย้ำดูแลทุกพรรคการเมือง เพราะ ส.ส. คือผู้แทนของประชาชน ดังนั้นเมื่อเป็นรัฐบาลของประชาชนก็ต้องลงพื้นที่ และรับข้อเสนอแนะ ก่อนนำไปพิจารณาว่าจะใช้จ่ายงบประมาณอย่างไร โดยทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างทุจริตและโปร่งใส และขอให้มีการดูแลงบประมาณที่ถูกเสนอมาโดย ส.ส. ที่อยู่ในคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน โดยจะช่วยผลักดันโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่

นายกฯ ยังคงเดินหน้าโครงการไทยเข้มแข็ง เพราะถือเป็นโครงการระดับนโยบายของรัฐบาล พร้อมพิจารณาแต่ละโครงการทำประโยชน์เพื่อประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่ดีก็ต้องยกเลิก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุม นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ส่วนราชการในท้องที่ รวมถึงท้องถิ่น และ ส.ส. ทำงานร่วมกัน เมื่อเกิดน้ำท่วมให้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เตรียมแผนบริหารจัดการโดยเฉพาะในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ในบริเวณจุดเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก จะต้องแก้ไขปัญหาระบายน้ำทันที หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนรับรู้สถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์และเตรียมตัวอพยพ จะต้องมีการจัดหาสถานที่พักชั่วคราวให้ประชาชนอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ประสบปัญหาการระบาดโควิด-19 ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญที่สุด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top