ศบค. พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 13,798 ราย ATK 1,216 ตาย 144 ราย

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,798 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 12,117 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,208 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 451 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 22 ราย มาจากเมียนมา 12 ราย (ช่องทางธรรมชาติ 1 ราย) , มาเลเซีย 5 ราย และกัมพูชา 5 ราย (ช่องทางธรรมชาติ 1 ราย)
  • ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่าย ATK 1,216 ราย
  • เสียชีวิต 144 ราย เป็นชาย 77 ราย หญิง 67 ราย อายุระหว่าง 22-96 ปี มีสัดส่วนของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 106 ราย คิดเป็น 74% ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 30 ราย คิดเป็น 20% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย คิดเป็น 2% และหญิงตั้งครรภ์ 1 รายที่ จ.นราธิวาส คิดเป็น 0.7%

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,420,340 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 14,133 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 14,765 ราย ยังรักษาอยู่ 128,546 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,994 ราย ในจำนวนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจ 806 ราย

จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 2,772 ราย สมุทรปราการ 1,351 ราย ชลบุรี 835 ราย ระยอง 680 ราย ราชบุรี 487 ราย สมุทรสาคร 404 ราย นนทบุรี 359 ราย นราธิวาส 354 ราย ปราจีนบุรี 345 ราย และ สงขลา 327 ราย

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในขณะนี้ยังมีความผันผวน โดยยังพบคลัสเตอร์ใหม่จากงานศพ งานอีเว้นท์ ตลาดนัด ร้านอาหาร แคมป์ก่อสร้าง ดังนั้นขอความร่วมมือจากประชาชนให้เพิ่มมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลแบบครอบจักรวาลอย่างเคร่งครัด มาตรการทางสังคม การควบคุมการเดินทาง มาตรการองค์กรด้วย COVID-FREE Setting และการตรวจคัดกรองด้วย ATK

“เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ ทุกครั้งที่ออกจากบ้านขอให้สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ และคำนึงอยู่เสมอว่าคนอื่นติดเชื้ออยู่หรือไม่”

นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

นอกจากนี้ยังพบการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานเพื่อทำกิจกรรมที่ไม่เหมาสะสม เช่น การมั่วสุม การตั้งวงดื่มสุรา การเสพยา การเล่นการพนัน ซึ่งหากประชาชนพบเห็นขอความร่วมมือแจ้งทางการเพื่อให้การป้องกันการแพร่ระบาดเกิดประสิทธิภาพ

สำหรับผลการดำเนินโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-14 ก.ย.64 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้ว 32,005 ราย ตรวจพบเชื้อ 91 ราย คิดเป็น 0.28% มียอดจองเข้าพัก 524,221 คืน ส่วนในพื้นที่พบผู้ติดเชื้อ 229 ราย ส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อยซึ่งระบบสาธารณสุขในพื้นที่สามารถรองรับได้

นอกจาก ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยังได้ขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ (7+7 Extension) ในจ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย, เกาะพงัน,เกาะเต่า), จังหวัดพังงา(เขาหลัก,เกาะยาวน้อย,เกาะยาวใหญ่) และจังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี/ไร่เลย์,เกาะไหง)

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีข้อสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงมหาดไทย ไปสำรวจพื้นที่อื่นๆ เพื่อนำร่องเรื่องท่องเที่ยวปลอดภัยที่จะรองรับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ของปีนี้

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 226,661,161 ราย เสียชีวิต 4,662,880 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 42,288,205 ราย อันดับ 2 อินเดีย 33,315,512 ราย อันดับ 3 บราซิล 21,019,830 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 7,282,810 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 7,176,085 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 29

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top