เงินบาทเปิด 32.92 แนวโน้มอ่อนค่า มีโอกาสแตะ 33 ให้กรอบวันนี้ 32.85 – 33.05

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.92 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.91 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าหลังนักลงทุนปิดรับความเสี่ยงหันมาถือครองสกุลเงินหลักจากความกังวลเรื่องรัฐบาลสหรัฐจะปรับขึ้นภาษี

“บาทอ่อนค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ หลังมีปัจจัยหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนกังวลเรื่องรัฐบาลสหรัฐจะขึ้นภาษี ทำให้ปิดรับความเสี่ยงหันมาถือครองเงินสกุลหลัก”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 32.85 – 33.05 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 33.00 บาท/ดอลลาร์อีกครั้ง

THAI BAHT FIX 3M (14 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.30151% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.31273%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.60 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.04 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1807 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1810 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.924 บาท/ดอลลาร์
  • พณ.กางแผนยุทธศาสตร์การค้าของชาติ 2565-70 ชี้ประเทศต้องปรับตัวและพร้อมรับความเสี่ยงโลก ชี้ 4 หลักยึด คือ เพิ่มขีดความสามารถ ใช้ศักยภาพ-เทคโนโลยี สร้างธุรกิจพร้อมสร้างคน และพึ่งพาบริโภคในประเทศ
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 64 และเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสก็พบว่าสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ แม้จะยังไม่แข็งแรงมากนัก แต่รัฐบาลพยายามสร้างสมดุลระหว่างการดูแลด้านสาธารณสุขควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน พร้อมใช้นโยบายการคลังหรือด้านภาษีมาช่วยด้วย
  • รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มตลาดแรงงานไทยจะค่อยฟื้นตัวมากขึ้นหลังจากที่รัฐได้ผ่อนคลายมาตรการการควบคุมไวรัสโควิด-19 หรือคลายล็อกดาวน์ แต่ยังคงเปราะบาง เนื่องจากตลาดแรงงานของไทย ส่วนหนึ่งอยู่ในภาคการค้าบริการและการท่องเที่ยวที่มีแรงงานกว่า 18 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังมีเข้ามาจำกัดและอาจต้องใช้เวลาถึงปี 66 จึงจะกลับไปสู่ภาวะปกติช่วงก่อนการแพร่ระบาดไวรัสโควิด
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยระบุว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งจะลดแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด
  • นักลงทุนยังจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย. เพื่อหาสัญญาณการปรับลดวงเงิน QE และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดเมื่อวานนี้
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., ดัชนีการผลิตเดือนก.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top