หุ้นเอเวอร์แกรนด์ดิ่งหนัก หลัง S&P คาดบริษัทผิดนัดชำระหนี้เดือนนี้

ราคาหุ้นสามัญและหุ้นกู้ของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ดิ่งลงอย่างหนักในวันนี้ หลังจากที่บริษัทเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) คาดการณ์ว่า บริษัทมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้ในเดือนนี้

ราคาหุ้นของเอเวอร์แกรนด์ทรุดตัวลงอย่างหนักถึง 7% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงในวันนี้ หลังจากปิดตลาดวานนี้ดิ่งลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 10 ปี และราคาหุ้นกู้สกุลดอลลาร์สหรัฐของเอเวอร์แกรนด์ที่มีกำหนดครบอายุไถ่ถอนในเดือนมี.ค. 2565 ร่วงลง 0.3 เซนต์ มาอยู่ที่ 24.9 เซนต์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาหุ้นกู้ของบริษัทร่วงลงราว 75% แล้วนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ตามข้อมูลที่บลูมเบิร์กได้รวบรวมไว้

ทั้งนี้ เอเวอร์แกรนด์เป็นผู้ออกหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนสูงรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย

S&P คาดการณ์ว่า บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดอันดับสองของจีนมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้ และเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะไม่ให้การสนับสนุนโดยตรงแก่เอเวอร์แกรนด์ แม้นักลงทุนมีความวิตกเพิ่มมากขึ้นว่า เอเวอร์แกรนด์อาจจะผิดนัดชำระหนี้การจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้

S&P ระบุว่า “เราเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะถูกบีบให้ยื่นมือเข้ามา หากการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ส่งผลให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อีกหลายรายต้องล้มละลายและสร้างความเสี่ยงเชิงระบบต่อเศรษฐกิจ แต่การล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์เพียงรายเดียวนั้น อาจจะไม่ทำรัฐบาลเข้ามาดำเนินการใดๆ”

ก่อนหน้านี้ S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของเอเวอร์แกรนด์ลงสู่ระดับ CC จากระดับ CCC โดยให้แนวโน้มการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นลบ เนื่องจากสภาพคล่องของเอเวอร์แกรนด์ลดน้อยลง และบริษัทมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับโครงสร้างหนี้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ย. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top