DEMCO คาดครึ่งปีหลังโตหลังตุนงานในมือกว่า 3.3 พันลบ.-รอเข้าประมูลต่อเนื่อง

นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เด็มโก้ (DEMCO) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมองว่าไตรมาส 4/64 จะเติบโตกว่าไตรมาส 3/64 หลังคลายล็อกดาวน์ทำให้สามารถส่งมอบงานได้มากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 3,364 ล้านบาท คาดจะรับรู้ปีนี้ราว 62% ที่เหลือจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 66 ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลงานทั้งปีเติบโตดีกว่าปีก่อน และปี 65 ก็จะเติบโตต่อเนื่องกว่าปีนี้ด้วย

ขณะที่บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานโครงการของภาครัฐ ทั้งในส่วนโครงการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งจะมีการเปิดประมูลงานในส่วนงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) เฉลี่ย 1 หมื่นล้านบาทต่อปี และโครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอเข้าประมูลงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยและสายส่ง คาดว่าจะมีการเปิดประมูลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 พันล้านบาทต่อปี

รวมถึงโครงการของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ปัจจุบันบริษัทได้เซ็นสัญญางานไฟฟ้าใต้ดิน มูลค่างานเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทอยู่ที่ราว 230 ล้านบาท รวมถึงการที่บริษัทยังมีโอกาสได้รับงานก่อสร้างจากบริษัทเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการโซลาร์ฟาร์มจากหน่วยงานภาครัฐเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นโครงการนำร่องเฟสแรก 300 เมกกะวัตต์ โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาคเอกชนขอรับใบอนุญาต PPA ภายในปีนี้

“บริษัทประเมินว่าผลงานในช่วงครึ่งปีหลังจะส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีมีทิศทางที่ดีขึ้นหากเทียบจากปีก่อน จากการรับรู้รายได้จากงานในมือ และยังมีการรับรู้จากงานที่จะยื่นประมูลได้เพิ่มเติมอีก ดังนั้นอยากให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นและไว้วางใจ บริษัทจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

สำหรับการที่ กฟภ.ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านพิจารณาคุณสมบัติ และข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) โดยบริษัทที่ DEMCO ถือหุ้น 60% ได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติและคำเสนอขอขายไฟฟ้าทางเทคนิค จำนวน 1 โครงการ กำลังผลิต 3 เมกกะวัตต์ (MW) ได้แก่ โรงไฟฟ้าประเภทชีวมวล บริษัท สะบ้าย้อย กรีน จำกัด ต.ธารคีรี อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งจะทราบผลอย่างเป็นทางการในเดือนก.ย.นี้

นอกจากนี้ บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ไปสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยในช่วงที่ผ่านมาจากกระแสการใช้รถ EV เพื่อลดมลภาวะทำให้ทั่วโลกตื่นตัว ดังนั้นจึงได้เริ่มเข้าไปศึกษาโดยในเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการเข้าไปร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในการทำสถานีไฟฟ้าย่อย สำหรับรองรับสถานีชาร์จไฟฟ้า เพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนอนาคตให้มีแหล่งรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top