หุ้นไทยปิดเช้าบวก 2.11 จุด แกว่งทรงตัวกังวลจีนคุมเข้มธุรกิจแม้แบงก์-พลังงานหนุน

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,633.26 จุด เพิ่มขึ้น 2.11 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขายราว 76,892 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งทรงตัว เผชิญแรงขายกลุ่มไฟแนนซ์-Commodity จากกังวลจีนคุมเข้มสกุลคริปโทและสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มไฟแนนซ์รับแรงกดดันจาก Bond yield สูงขึ้น แต่ได้แรงหนุนกลุ่มแบงก์-พลังงาน ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งบวก-ลบจากกังวลกรณี ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บ่ายนี้ตลาดฯมีโอกาสพักตัวหลังขึ้นไป 3 วันทำการ ทำให้ดัชนีเข้าใกล้แนว 1,640-1,650 ให้แนวรับ 1,620 แนวต้าน 1,635-1,640 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,633.26 จุด เพิ่มขึ้น 2.11 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขายราว 76,892 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,639.97 จุด และระดับต่ำสุด 1,625.31 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง รับแรงขายจากหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) จากความกังวลทางการจีนได้เข้ามาคุมเข้มสกุลเงินคริปโท รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์และอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้กลุ่มไฟแนนซ์ยังรับแรงกดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับตัวสูงขึ้น โดย Bond yield ของไทย อายุ 10 ปี ปรับขึ้นมา 1.8% ขณะที่สหรัฐฯขึ้นมา 1.45% จากสัปดาห์ที่แล้วอยู่แถว 1.3%

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงานที่ขึ้นมาตามราคาน้ำมัน ส่งผลให้ตลาดโดยรวมยังอยู่ในลักษณะทรงตัว

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยยังมีความกังวลกรณีปัญหา ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ปกคลุมอยู่ แม้เช้านี้จีนจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเข้าไปอีก ทำให้ลดความกังวลได้บ้างก็ตาม

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามทางการจีนเข้าควบคุมดูแลภาคธุรกิจต่าง ๆ อีกทั้งการเลือกตั้งในเยอรมนีและญี่ปุ่น ส่วนบ้านเราให้ติดตามการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันนี้ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 29 ก.ย.นี้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นไป 3 วันทำการติดต่อกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ดัชนีฯเข้าใกล้แนว 1,640-1,650 จุด จึงมีโอกาสที่จะพักตัวได้

พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,635-1,640 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 10,399.30 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 5,457.93 ล้านบาท ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 4,177.28 ล้านบาท ปิดที่ 122.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,651.92 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,784.66 ล้านบาท ปิดที่ 3.82 บาท ลดลง 0.12 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top